ฟิลิปปินส์เผย เรือยามฝั่งจีน “กระแทก” และฉีดน้ำใส่เรือขนส่งเสบียงในทะเลจีนใต้

หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ระบุว่า เรือลำหนึ่งของฟิลิปปินส์ถูก “กระแทก” โดยเรือยามฝั่งของจีนระหว่างภารกิจส่งเสบียงเมื่อวันอาทิตย์ (10 ธ.ค.) ถือเป็นการเผชิญหน้าครั้งล่าสุดในทะเลจีนใต้ที่เป็นข้อพิพาทระหว่างสองประเทศ

นายเจย์ ทาร์เรียลา โฆษกหน่วยยามฝั่งทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก กล่าวผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) ว่า เรือจีนลำหนึ่งยังได้ “ยิงปืนฉีดน้ำแรงดันสูง” ใส่เรือฟิลิปปินส์ 3 ลำที่เกี่ยวข้องกับภารกิจส่งเสบียง ส่งผลให้เครื่องยนต์ของเรือลำหนึ่งได้รับความเสียหายร้ายแรง

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นใกล้กับสันดอนโธมัสที่ 2 ในหมู่เกาะสแปรตลี โดยเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่ฟิลิปปินส์กล่าวหาหน่วยยามชายฝั่งของจีนว่าใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อ “ขัดขวาง” เรือของรัฐบาลฟิลิปปินส์ 3 ลำที่กำลังจัดส่งเสบียงไปให้ชาวประมงฟิลิปปินส์ใกล้สันดอนสการ์โบโรห์ นอกเกาะลูซอน

เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าเหตุการณ์นี้ ขบวนเรือพลเรือนที่มีชาวประมงชาวฟิลิปปินส์ 100 คน ได้ออกเดินทางผ่านสันดอนโธมัสที่ 2 โดยเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจส่งมอบความสุขในเทศกาลคริสต์มาสและส่งเสบียงไปยังด่านนอกอันห่างไกล

ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์และจีนมีเหตุกระทบกระทั่งทางทะเลในทะเลจีนใต้มายาวนาน โดยพื้นที่พิพาทดังกล่าวมีมูลค่าทางการค้าหลายล้านล้านดอลลาร์ต่อปี แม้จะมีคำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการถาวรที่กรุงเฮกในปี 2559 ว่าการอ้างสิทธิ์ของจีนเหนือน่านน้ำดังกล่าวไม่มีพื้นฐานทางกฎหมายและการสร้างหมู่เกาะเทียมในน่านน้ำพิพาทถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการพิจารณาคดีและเพิกเฉยต่อคำพิพากษาดังกล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ธ.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top