หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้ารับโมเมนตัมบวกจากเฟดจะลดดอกเบี้ยมากกว่าคาด จับตาเม็ดเงินกองทุนไหลเข้า

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดมีโมเมนตัมบวกต่อเนื่อง หลังการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย(Dot Plot) เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรํฐ (เฟด)ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยปี 67 อย่างน้อย 3 ครั้งมากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ส่งผลให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทย อีกทั้งปลายสัปดาห์นี้จนถึงต้นสัปดาห์หน้าคาดว่าจะมีเม็ดเงินจากกองทุน TESG หรือ SSF เข้ามาซื้อ ทำให้คาดว่าโมเมนตัมในช่วง 1-2 วันนี้น่าจะยังดี

วานนี้กลุ่มที่มีแรงซื้อเข้ามา อาทิ กลุ่มค้าปลีก จากก่อนหน้านี้ลงไปแรง และช่วงที่กองทุน TESG เข้าน่าจะมีแรงซื้อในกลุ่มดังกล่าวเพิ่มเข้ามาด้วย จากอานิสงส์จากโครงการ e-Refund ต้นปี 67 รวมทั้งเมื่อคืนนี้ราคาพลังงานฟื้นตัวดี ทำให้กลุ่มพลังงานและโรงกกลั่นน่าจะกลับเข้าไปเล่นได้

นอกจากนี้ ช่วงสัปดาห์หน้านักลงทุนรอติดตามความคืบหน้าโครงการ Digital Wallet และผลการเดินทางไปญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรีจะมีประเด็นใดเพิ่มเติมหรือไม่

พร้อมทั้งให้กรอบดัชนีแนวรับ 1,370 จุด และแนวต้าน 1,395 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (14 ธ.ค.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,248.35 จุด เพิ่มขึ้น 158.11 จุด หรือ +0.43%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,719.55 จุด เพิ่มขึ้น 12.46 จุด หรือ +0.26% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,761.56 จุด เพิ่มขึ้น 27.59 จุด หรือ +0.19%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,760.56 จุด เพิ่มขึ้น 74.31 จุด หรือ +0.23% ขณะที่ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,610.70 จุด เพิ่มขึ้น 208.51 จุด หรือ +1.27% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,966.30 จุด เพิ่มขึ้น 7.31 จุด หรือ +0.25%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (14 ธ.ค.66) ที่ 1,378.94 จุด เพิ่มขึ้น 20.97 จุด (+1.54%) มูลค่าซื้อขาย 40,897.67 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,562.27 ล้านบาท (14 ธ.ค.66)

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.(14 ธ.ค.)เพิ่มขึ้น 2.11 ดอลลาร์ หรือ 3.04% ปิดที่ 71.58 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (14 ธ.ค.66) อยู่ที่ 9.00 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 34.94 แข็งค่า หลัง BoE-ECB คงดอกเบี้ยตามเฟด จับตาปัจจัยตปท.

– คลังสั่งสำนักงาน ก.ล.ต.พิจารณายกเลิก Robot Trade หากเห็นว่าไม่สมควรมีให้รีบยกเลิก ถือเป็นมาตรการเร่งด่วนที่ต้องรีบทำทันที และจะไม่บอกล่วงหน้า ด้านตลาดหลักทรัพย์ฯ วงการตลาดทุนแนะพิจารณาให้รอบคอบ เผยการยกเลิกมีทั้งข้อดีและข้อเสีย พร้อมหวั่นต่างชาติอาจหาย เหตุเทรดไม่มีความคล่องตัว ล่าสุดพบมีการซื้อขายหุ้นผ่าน “โปรแกรมเทรด” เฉลี่ย 42% จากมูลค่าการซื้อขายรวมของแต่ละวัน

– นายกฯนำทีมรัฐมนตรี พร้อม 2 ค่ายยักษ์ยานยนต์ บินร่วมประชุม สุดยอดอาเซียนญี่ปุ่นฯ 14-18 ธ.ค.นี้ เผยคิวแน่นเอี้ยด มีพบ 7 บิ๊กค่ายรถยนต์ ก่อนหารือทวิภาคี “นายกฯญี่ปุ่น” และเข้าเฝ้าฯ “สมเด็จพระจักรพรรดิ-สมเด็จพระจักรพรรดินี”

– “เวิลด์แบงก์” ชูเศรษฐกิจสีเขียวเป็นแรงขับเคลื่อนประเทศโตยั่งยืน มองศก.ไทยโตต่ำกว่าศักยภาพ-ช้าสุดในภูมิภาค แม้ปีหน้าจีดีพีฟื้นโต 3.2% จากปีนี้ 2.5% ชี้ยังมีปัญหาเชิงโครงสร้าง เร่งแก้ไข แนะดึงเงินลงทุน “เอฟดีไอ-เก็บภาษี เพิ่มพื้นที่การคลัง” คาด “ดิจิทัลวอลเล็ต” หนุนจีดีพีเพิ่ม 0.5-1% ช่วงปี 67-68 ดันหนี้สาธารณะขยับแตะ 65-66%

– SCB EIC มองแนวทางแก้หนี้ของภาครัฐ คาดใช้เวลา 2-3 ปี และต้องมาพร้อมกับเพิ่มรายได้ พบคนมีรายได้ปานกลาง-ต่ำ มีแนวโน้มเป็นหนี้นานกว่า ฉุดรั้งเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวหลังวิกฤติโควิดได้ช้าติดอันดับรั้งท้ายโลก และ ‘จีดีพี’ 20 ปีข้างหน้า โตเฉลี่ยแค่ 3.03%

– รฟท.ถก “ซีพี-สกพอ.” สางปมไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ลุยชงอัยการพิจารณาต้นปีหน้า ปักธงลงนามแก้ไขสัญญาภายในเดือน พ.ค.67 ส่วนพื้นที่ทับซ้อน เร่งเจรจาเอกชนต้องก่อสร้างให้สอดคล้องกับทางมาตรฐานจีนที่รองรับโครงการรถไฟความเร็วสูง

– ททท.เร่งเครื่อง เบ่งตลาดความหวัง “จีน-อินเดีย-อาเซียน-ยุโรป” เติมช่องว่าง 8 ล้านคน จากปี 66 สู่เป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติแตะ 35 ล้านคนปี 67 ลุยปั้นงาน อีเวนต์-กิจกรรมเอ็นเตอร์เทนเมนต์-กีฬา ควบคู่โปรโมตซอฟต์พาวเวอร์

 

หุ้นเด่นวันนี้

 

– PTTEP (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 180 บาท ราคาน้ำมันดิบ Brent เริ่มรีบาวน์ขึ้น 2.69% เป็นผลดีกับหุ้น PTTEP ขณะที่ OPEC+ ยังคงลดกำลังการผลิต ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และจากการที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกปีหน้า

– MASTER (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 79.50 บาท ประกาศเข้าลงทุน V Square Clinic ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Filler และ Botox มี 25 สาขาทั่วกรุงเทพ โดยเข้าไปลงทุนสัดส่วน 40% ด้วยมูลค่าเงินลงทุน 720 ล้านบาท

เรามีมุมมองเป็นบวกต่อดีลนี้ ซึ่งจะช่วยต่อยอดธุรกิจที่เป็นหัตถการด้านฉีดมากยิ่งขึ้น โดยเบื้องต้นหากอิงสมมติฐานอัตรากำไรของธุรกิจเสริมความงามที 12.5% และอัตราการเติบโตของธุรกิจที่ 9% ต่อปี คาดจะเป็น Upside ต่อประมาณการปีหน้าราว 45 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นส่วนเพิ่ม +7.9% ของคาดกำไรปี 2567

– BEM (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 8.30 บาท ยอดใช้รถไฟฟ้ายังสูงต่อเนื่อง ตัวเลขนักท่องเที่ยวออกมาดี (งานกาชาด+ concert Jay Chou) สัปดาห์ที่ผ่านมา (4-10 ธ.ค.) อยูที่ 655,653 คน เพิ่มขึ้น 10.37% WoW รายได้จากธุรกิจรถไฟฟ้า+ทางด่วนดีตามเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว อีกทั้งอนาคตรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรีจะขยับฐานรายได้ให้กับ BEM สถิติ พ.ย.66 รถไฟฟ้ากทม.-ปริมณฑล (รวมสายสีแดง) 1,710,557 คน-เที่ยว นิวไฮตั้งแต่มี Covid การเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายใหม่ (สีเหลือง-สีชมพู) ทำให้มีคนใช้บริการมากขึ้น กำไร BEM ค่อยๆ ไต่ระดับกลับขึ้นไปหาปี 2019 ล่าสุด Q3/66 ยู่ที่ 970 ลบ. เพิ่มขึ้นถึง 12%

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ธ.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top