NL พกความมั่นใจเทรด SET พรุ่งนี้ชูมืออาชีพงานก่อสร้างเฉพาะทาง อันเดอร์ไรท์ให้เป้า 5.90-7.50

นายศรันย์ โรจน์เลิศจรรยา กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ (NL) กล่าวว่า NL พร้อมเข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (PROPCON) หมวดธุรกิจบริการรับเหมาก่อสร้าง (CONS) ในวันพรุ่งนี้ ในชื่อย่อหลักทรัพย์ “NL”

นับเป็นอีกก้าวสำคัญสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ในฐานะหนึ่งในผู้นำธุรกิจก่อสร้างและงานติดตั้งระบบวิศวกรรมครบวงจรชั้นนำ สามารถรับงานได้หลากหลายประเภท ที่มาพร้อมกับศักยภาพการเติบโตของธุรกิจและอัตรากำไรสุทธิที่ค่อนข้างโดดเด่น ควบคู่ไปกับการยึดมั่นในความซื่อสัตย์ รับผิดชอบทั้งต่อลูกค้า คู่ค้า สังคม และชุมชน พร้อมขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

ด้วยผลงานที่เต็มไปด้วยคุณภาพและมาตรฐานจนเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง จากการสั่งสมประสบการณ์ในแวดวงก่อสร้างมายาวนานกว่า 40 ปี ส่งผลให้ NL ได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และ บริษัทเอกชน ให้เข้าร่วมประมูลและรับงานอย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นงวด 9 เดือนแรกปี 66 มีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 2,107.25 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในระหว่างปี 66-68

“วันนี้ NL พร้อมแล้วที่จะนำบริษัทเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มุ่งขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดทุน และพร้อมให้ทุกท่านได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในก้าวแรกของความสำเร็จไปพร้อมกับเรา โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ก่อสร้าง และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจในปี 2567 สอดรับกับทิศทางของภาคอสังหาริมทรัพย์ และเมกะเทรนด์ด้านเฮลท์แคร์ที่กำลังขยายตัว”นายศรันย์ กล่าว

และนอกเหนือจากหลักเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯกำหนดในการติด Silent Period ห้ามขายหุ้นในสัดส่วน 55% ของทุนชำระแล้วหลัง IPO เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนแล้ว กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ NL ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อตั้ง มีความมั่นใจในการเติบโต พร้อมใจร่วมกัน Lock up หุ้นเดิมทั้งหมด 100% เป็นระยะเวลา 2 เดือน

นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า NL เป็นหุ้นก่อสร้างน้องใหม่ที่กำลังจะเข้าเทรดใน SET ที่มีความน่าติดตามเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ วิสัยทัศน์ของผู้บริหารรุ่นใหม่ที่นำองค์กรให้ก้าวผ่านวิกฤติโควิด-19 มาได้อย่างแข็งแกร่ง อีกทั้งความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่ยาวนาน ส่งผลให้ NL พร้อมเดินหน้าต่อท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทาย เพื่อสร้างผลตอบแทนให้เป็นที่น่าพอใจได้ เนื่องจาก NL มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ไม่มีภาระเงินกู้ยืมและดอกเบี้ยจ่าย จึงมีกระแสเงินสดที่แข็งแรง

ปัจจุบัน NL ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างครบวงจร (One-Stop Service) รับงานจากหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานรัฐประเภทอื่น รวมถึงหน่วยงานเอกชน และมีความเชี่ยวชาญในงานก่อสร้างเฉพาะทางและงานที่ซับซ้อน โดดเด่นในการรับงานก่อสร้างสถานพยาบาล และสามารถรับงานได้หลากหลายประเภท พร้อมนำเทคโนโลยี BIM (Building Information Modeling) มาใช้ในการถอดแบบงานก่อสร้าง เพิ่มประสิทธิภาพงานให้ดียิ่งขึ้น

ขณะที่ทุกย่างก้าวของ NL ยังเดินหน้าธุรกิจด้วยความระมัดระวัง วางกลยุทธ์ปิดความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ด้วยการสร้างโรงงานในอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ประกอบด้วยโรงงานสำหรับตัดและดัดเหล็กเส้นในการควบคุมต้นทุนที่สำคัญ และโรงงานสำหรับผลิตเฟอร์นิเจอร์งานตกแต่งภายในอาคารต่างๆ นอกจากนี้ยังมีอาคารโกดังเพื่อใช้เป็นพื้นที่ในการจัดเก็บเหล็กเส้น ซึ่งสามารถรองรับการจัดเก็บวัตถุดิบในกรณีที่ราคาวัตถุดิบที่มีแนวโน้มจะสูงขึ้น จึงมั่นใจว่า NL จะเป็นหุ้นที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อนักลงทุนได้ในระยะยาว

นางสาววีรยา ศรีวัฒนะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ NL เปิดเผยว่า ในช่วงระยะเวลาเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 130 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 12-14 ก.พ.มีนักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก สะท้อนความเชื่อมั่นที่มีต่อบริษัทฯ และการกำหนดราคา IPO ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 2.60 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม

ทั้งนี้ บทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ 3 แห่งที่จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ NL ให้มูลค่าเป้าหมายปี 67 ที่ 5.90-7.50 บาทต่อหุ้น มองแนวโน้มการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง และเป็นปีแห่งการลงทุนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จากงบประมาณภาครัฐบาลที่เข้ามาสนับสนุน รวมทั้ง จำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น และผู้ป่วยต่างชาติที่เริ่มกลับเข้ามา ซึ่งจะเป็นโอกาสของ NL ในการเข้าประมูลงานโครงการที่สูงขึ้น ทั้งในแง่ของจำนวนและมูลค่าโครงการ เพื่อเป้าหมายรายได้ที่เติบโตก้าวกระโดด และจากการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารและค่าใช้จ่ายบุคลากร ซึ่งเป็นต้นทุนคงที่ สนับสนุนการเติบโตของอัตรากำไรสุทธิ และสร้างผลกำไรที่ดีในระยะยาว

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.พ. 67)

Tags: , , ,
Back to Top