ตลท.ย้ำเกณฑ์ใหม่กำกับ บจ.-เตืนอผู้ลงทุนเพิ่มความเข้มข้นยกระดับคุณภาพ

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลท.ทำงานร่วมกับสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อย่างต่อเนื่องในการศึกษา ทบทวน และปรับปรุงเกณฑ์ต่าง ๆ ให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

ล่าสุด ตลท.ได้ปรับปรุงเกณฑ์เพื่อยกระดับการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การเข้าจดทะเบียน การดำรงสถานะเป็น บจ. ตลอดจนการเพิกถอน เพื่อเพิ่มคุณภาพ บจ. พร้อมทั้งเพิ่มการเปิดเผยข้อมูลและการเตือนผู้ลงทุน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเสถียรภาพให้ตลาดทุนไทย หลังจากการปรับปรุงการเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหลักทรัพย์ให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลมากขึ้น ซึ่งมีผลใช้บังคับแล้วเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 67 ที่ผ่านมา

ครั้งนี้ ตลท.ได้ปรับปรุงเกณฑ์ 4 เรื่อง สำคัญดังนี้

1. ปรับปรุงคุณสมบัติของบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนทั้ง SET และ mai โดยเพิ่มมูลค่ากำไรและส่วนของผู้ถือหุ้น เพื่อเพิ่มความแข็งแรงทั้งด้านฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียน ซึ่งจะมีผลใช้บังคับวันที่ 1 ม.ค. 68 เพื่อให้บริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนและผู้ที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตามเกณฑ์ใหม่ได้

2. ยกระดับการเตือนผู้ลงทุน โดยเพิ่มเหตุที่จะเตือนผู้ลงทุนด้วยเครื่องหมาย ดังนี้

2.1 กรณี บจ.มีความเสี่ยงด้านฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน สภาพคล่องทางการเงิน ทั้งกรณีไม่มีธุรกิจ มีขาดทุนต่อเนื่อง หรือผิดนัดชำระหนี้สถาบันการเงินหรือตราสารหนี้

2.2 กรณีผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน

2.3 กรณี บจ.มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด ได้แก่ เป็น Cash Company มีคณะกรรมการตรวจสอบหรือ Free Float ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ หรือไม่จัด Opportunity Day ตามที่กำหนด โดยการเตือนผู้ลงทุนจะแสดงด้วยเครื่องหมายที่แตกต่างกันตามแต่ละเหตุ ซึ่งเครื่องหมายใหม่นี้จะทดแทนเครื่องหมาย C (Caution) ในปัจจุบันด้วย

3. เพิ่มเหตุเพิกถอนกรณี บจ.ไม่มีธุรกิจต่อเนื่องหลายปี หรือไม่สามารถแก้ไข Free Float ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้มั่นใจว่า บจ.มีคุณภาพเหมาะสม

4. เพิ่มความเข้มข้นในการพิจารณาคุณสมบัติบริษัทที่เข้าจดทะเบียนโดยอ้อม (Backdoor Listing) และกรณีย้ายกลับมาซื้อขายหลังแก้ไขเหตุอาจถูกเพิกถอน (Resume Trading) ให้เทียบเท่ากับการเข้าจดทะเบียนใหม่ (New Listing) เพื่อให้ บจ.มีคุณภาพใกล้เคียงกัน

โดยการปรับปรุงในข้อ 2-4 จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 67 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ เกณฑ์ดังกล่าวได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง และผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. แล้ว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.พ. 67)

Tags: , , , ,
Back to Top