อุตสาหกรรมชิปญี่ปุ่นปลื้มอุปสงค์จากจีนแกร่ง หลังสหรัฐคุมเข้มการค้า

กลุ่มบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์จากญี่ปุ่นกำลังได้ประโยชน์จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากจีน โดยปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากการที่สหรัฐออกมาตรการควบคุมการค้าและจีนเพิ่มความพยายามในการส่งเสริมอุตสาหกรรมชิปในประเทศ

“จีนต้องการชิปรุ่นเก่าจำนวนมากเนื่องจากปัจจุบันไม่สามารถส่งออกชิปขั้นสูงไปยังจีนได้” นายมาซาโตะ โกโตะ ประธานบริษัทสกรีน เซมิคอนดักเตอร์ โซลูชั่นส์ (Screen Semiconductor Solutions) โดยสกรีน เซมิคอนดักเตอร์ โซลูชั่นส์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือสกรีน โฮลดิงส์ (Screen Holdings) ของญี่ปุ่นเป็นซัพพลายเออร์เครื่องจักรสำหรับทำความสะอาดเวเฟอร์ชิปเพื่อกำจัดเศษโลหะขนาดเล็ก ซึ่งอาจเล็กถึง 0.1 ไมโครเมตร

ยอดขายสินค้าให้จีนของสกรีน เซมิคอนดักเตอร์ โซลูชั่นส์มีแนวโน้มคิดเป็นสัดส่วน 44% ในปีงบการเงินที่สิ้นสุดเดือนมี.ค.ปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีงบการเงินก่อนหน้าที่ 19%

“ยอดขายดังกล่าวหลัก ๆ แล้วจะมาจากภาคส่วนยานยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภค ซึ่งปกติแล้วจะใช้ชิปขนาด 45 นาโนเมตรหรือ 28 นาโนเมตร” นายโกโตะระบุ

นายโกโตะระบุว่า เครื่องจักรรุ่นเก่าโดยทั่วไปแล้วจะทำกำไรน้อยกว่าเครื่องจักรสำหรับผลิตชิปขั้นสูง แต่โดยรวมแล้วยังถือว่าทำกำไรได้ดี เนื่องจากเป็นเครื่องจักรที่ครอบคลุมภาคส่วนต่าง ๆ เป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงสามารถขายได้ในปริมาณมาก”

“แม้เราจะปฏิบัติตามข้อจำกัดของรัฐบาล แต่ตลาดจีนจะยังคงเป็นตลาดสำคัญสำหรับเรา” นายโกโตะระบุ

โตเกียว อิเลคตรอน (Tokyo Electron) ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์เครื่องจักรเคลือบเวเฟอร์ชั้นนำของโลกจากญี่ปุ่น ระบุว่า ยอดขายในจีนคิดเป็นสัดส่วน 46.9% ในช่วง 3 เดือนที่สิ้นสุดในเดือนธ.ค.ปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

“กลุ่มผู้ผลิตชิปจีนมีแนวโน้มจะลงทุนอย่างต่อเนื่องในปีงบการเงินหน้า ซึ่งเริ่มต้นในเดือนเม.ย.ปีนี้ เนื่องจากจีนพยายามพึ่งพาตนเองมากขึ้น” นายโทชิกิ คาวาอิ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารโตเกียว อิเลคตรอนกล่าว

สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชียรายงานว่า กลุ่มผู้ผลิตเครื่องจักรญี่ปุ่นได้ประโยชน์อย่างคาดไม่ถึงจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน โดยกลุ่มผู้ผลิตชิปจีนหันมาลงทุนในห่วงโซ่อุปทานในประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยมีรัฐบาลจีนให้การสนับสนุนด้านการเงิน หลังจากจัดหาชิปและวัตถุดิบลำบากมากขึ้นจากผลพวงของการควบคุมการค้าของสหรัฐ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.พ. 67)

Tags: , , , ,
Back to Top