TERA เคาะราคาขาย IPO หุ้นละ 1.75 บาท เปิดจองซื้อช่วง 3 -11 เม.ย.

บมจ.เทอร์ราไบท์ พลัส (TERA) กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 90,000,000 หุ้น

มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.75 บาท โดยมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คือ บล.บียอนด์ และ บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)

บริษัทกำหนดระยะเวลาจองซื้อ

(1) สำหรับผู้ถือหุ้นของ บมจ.เน็กซ์ พอยท์ (NEX) เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น (Pre-emptive Rights): วันที่ 3-5 เมษายน 2567

และ (2) สำหรับบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ผู้มีอุปการคุณของบริษัทหรือบริษัทย่อย บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทหรือบริษัทย่อย และกรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานของบริษัทหรือบริษัทย่อย: วันที่ 9-11 เมษายน 2567

การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่เสนอขายในครั้งนี้ พิจารณาจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: PER) ทั้งนี้ ราคาหุ้นที่เสนอขายหุ้นละ 1.75 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ เท่ากับ 14.50 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ซึ่งมีกำไรสุทธิส่วนของผู้เป็นเจ้าของของบริษัทใหญ่ เท่ากับ 28.96 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับ 240 ล้านหุ้น (Fully Diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings Per Share: EPS) ที่เป็นของบริษัทใหญ่ เท่ากับ 0.12067 บาท

อย่างไรก็ตาม การคำนวณจากผลการดำเนินงานในอดีต 4 ไตรมาสย้อนหลัง ซึ่งอาจจะไม่สะท้อนถึงผลการดำเนินงานหรือความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในปัจจุบันหรือในอนาคต และไม่ได้เป็นอัตราส่วนที่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้โดยตรง เนื่องจากเป็นอัตราส่วนในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน

สำหรับสัดส่วนหุ้นของผู้มีส่วนร่วมในการบริหารที่ไม่ติด Silent Period จำนวน 4,686,956 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.95 ของหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้

TERA ประกอบธุรกิจเป็นผู้ออกแบบ ติดตั้ง จัดจำหน่ายอุปกรณ์ด้านไอที และให้บริการเกี่ยวกับระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology: ICT) ขนาดใหญ่แบบครบวงจร จัดจำหน่ายและให้บริการด้านระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) จัดจำหน่ายและให้บริการซอฟต์แวร์ระบบบริหารจัดการการขนส่งกระจายสินค้าและโลจิสติกส์ (Transportation Management System: TMS) และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และให้บริการ รวมถึงฝึกอบรมด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) ที่จะช่วยให้ลูกค้าเพิ่มผลกำไรในการดำเนินธุรกิจ โดยผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเป็นตัวแทนในการจัดจำหน่ายล้วนเป็นแบรนด์ที่มาจากบริษัทไอทีชั้นนำที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และมีมาตรฐานระดับสากล

กลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจเป็นผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ด้านไอทีและให้บริการเกี่ยวกับระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology: ICT) ขนาดใหญ่แบบครบวงจร โดยแบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 4 กลุ่มธุรกิจได้แก่

1. กลุ่มธุรกิจจัดจำหน่ายโซลูชั่นและให้บริการที่เกี่ยวข้องกับระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (On-Premise Hardware & Cyber Security)

2. กลุ่มธุรกิจบริการระบบเก็บข้อมูลและประมวลผลระบบสารสนเทศบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และบริการในรูปแบบสมาชิกแบบต่อเนื่อง (Cloud & Recurring Services)

3. กลุ่มธุรกิจระบบซอฟต์แวร์บริหารจัดการ การขนส่งกระจายสินค้าและโลจิสติกส์ (Transportation Management System: TMS) ภายใต้ตราสินค้า “Skyfrog”

4. กลุ่มธุรกิจการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics)

วัตถุประสงค์การใช้เงินจากการระดมทุน

1. ลงทุนในระบบ Cloud 60 ล้านบาท ไตรมาส 4/2567

2. ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพ เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัท 70 ล้านบาท ปี 2568 – ปี 2569

3. เงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ 9.40 ล้านบาท ปี 2567-2568

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มี.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top