ILM มั่นใจยอดขาย 3 ปีโต 2 Digit ต่อเนื่อง จัดงบเปิดปีละ 1-2 สาขาใหม่ ชู model อาคารประหยัดพลังงาน

นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM) มั่นใจแนวโน้มยอดขายในช่วง 3 ปีนี้ (ปี 67-69) จะยังคงเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักอย่างต่อเนื่องทุกปี จากการเป็นผู้นำตลาดเบอร์ 1 ของผู้ประกอบการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ทุกประเภทมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 10 ปี

โดยที่ในช่วงเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายของบริษัทยังคงทำได้ดีมากขึ้นต่อเนื่องจากปลายปี 66 จากการที่ภาครัฐมีโครงการ Easy e-reciept ที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการจับจ่ายใช้สอยในช่วงต้นปี ประกอบกับบริษัทยังคงมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ ทำให้สามารถเข้าลูกค้าได้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการขายผ่านช่องทางออนไลน์ และยังมีการเพิ่มสินค้าใหม่เข้ามาตอบโจทย์พฤติกรรมความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เป็นปัจจัยที่เข้ามาช่วยให้ยอดขายสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง และทำให้ยอดขายในไตรมาส 1/67 คาดว่าจะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่การแข่งขันกับผู้ประกอบการจากต่างประเทศ มองเป็นการแข่งขันกันในเรื่องของกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน เช่น สินค้าเฟอร์นิเจอร์จากจีน จะเนินไปที่ราคาสินค้าถูก และการออกแบบที่โมเดิร์น ซึ่งเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มองหาเฟอร์นิเจอร์ในราคาที่จับต้องได้ หรือผู้ประกอบการรายใหญ่จากตะวันตกที่เข้ามาในประเทศไทยก็มีกลุ่มลูกค้าที่เป็นดีไซน์เฉพาะตัว ซึ่งมีการแข่งขันกันในแต่ละกลุ่มลูกค้ากันกับบริษัท

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปีนี้ วางแผนขยายสาขา อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาใหม่ 1-2 สาขา/ปี โดยจะมี New store model ต้นแบบอาคารประหยัดพลังงานรายแรกของธุรกิจค้าปลีกไทยและรายแรกในภูมิภาคอาเซียน ที่อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาสระบุรี บนพี้นที่กว่า 10 ไร่ โดยใช้งบลงทุนกว่า 170 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดให้บริการในไตรมาส 1/68

ขณะเดียวกันยังคงมีการรีโนเวทสาขาเดิมด้วยดีไซน์ใหม่ 1-2 สาขา ได้แก่ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาเชียงใหม่ และอุดรธานี พร้อมเปิด “DecoreScape” แหล่งช้อปแห่งใหม่ใจกลางทองหล่อ โดยทุ่มงบกว่า 150 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเป็น Lifestyle Mall ดีไซน์ Modern Luxury รูปแบบอาคาร 3 ชั้น บนพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร และเตรียมขยาย Little Walk อีก 1-2 สาขา ได้แก่ สาขารัตนาธิเบศร์ งบลงทุน 550 ล้านบาท บนพื้นที่ขนาด 12 ไร่ ประกอบด้วย อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ขนาด 6,340 ตารางเมตร และพื้นที่ร้านค้าเช่า 10,100 ตารางเมตร ซึ่งพร้อมเปิดให้บริการในไตรมาส 4/67 โดยในช่วง 3 ปีนี้ วางงบลงทุนในการขยายสาขาไว้ที่ 3 พันล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 1 พันล้านบาท

ด้านต่างประเทศปัจจุบันขยายไปแล้ว 12 สาขา ใน 6 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม 2 สาขา เมียนมาร์ 4 สาขา ลาว 1 สาขา กัมพูชา 2 สาขา เนปาล 2 สาขา และ มัลดีฟส์ 1 สาขา ส่วนในปี 67 เตรียมขยายเพิ่มอีก 4 สาขา ที่เวียดนาม 2 สาขา (เมืองโฮจิมินห์) และเมียนมาร์ 1 สาขา (เมืองมัณฑะเลย์) และประเดิมการขยายตลาดไปยังอินเดีย ที่เมืองปุเณ (Pune) พร้อมกันนี้ยังมองโอกาสขยายขอบข่ายการจัดจำหน่ายสินค้าไปยังกลุ่มค้าปลีกรายใหญ่โซนตะวันออกกลาง เช่น ดูไบ และซาอุดิอาระเบีย พร้อมคาดหวังในช่วง 3 ปีนี้ จะสามารถเพิ่มสัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศได้ 10% จากปัจจุบันส่ดส่วนยอดขายจากต่างประเทศไม่ถึง 5%

นอกจากการขยายสาขาแล้วยังพัฒนาช่องทางการขายออนไลน์ ให้เติบโต 20% สร้างประสบการณ์ที่ดีรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคในทุกช่องทาง โดยในปีที่ผ่านมา TikTok เป็น Mega trend ใหม่ของปี ทำให้บริษัทมองเห็นโอกาสเติบโต และเพิ่ม TikTok Shop เป็นช่องทางในการทำตลาดและจัดจำหน่ายสินค้า โดยมีทีมงาน LIVE Streaming โดยเฉพาะ และผลการดำเนินงานของ TikTok Shop จากปี 66 ส่งผลให้ Index Living Mall เป็นหนึ่งใน Top Sellers หมวดสินค้าเฟอร์นิเจอร์

ขณะที่ด้านการขยายฐานลูกค้าใหม่นั้นบริษัทได้พัฒนาสินค้าอย่างหลากหลายทั้งดีไซน์และฟังก์ชันตอบโจทย์ความต้องการกลุ่ม New Gen เน้นการสร้าง Digital Experience และ Pop Display ทั้งหน้าร้านและออนไลน์ เชื่อมไลฟ์สไตล์การช้อปปิ้ง ควบคู่การรักษาฐานลูกค้าเดิม โดยขยายไลน์สินค้าแบรนด์ Furinbox จากออนไลน์สู่ออฟไลน์วางจำหน่าย 22 สาขา ทั่วประเทศ โดยจับกลุ่มลูกค้า C ที่มีฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ในประเทศ รวมถึงการขยายสินค้าในกลุ่ม Customized ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้น

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มี.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top