SAT หวังปี 67 โตต่อเนื่องเหนือตลาด ท่ามกลางความท้าทายแบงค์เข้มปล่อยสินเชื่อกระทบยอดขายรถ

นางสาวนภัสร กิตะพาณิชย์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) เปิดเผยว่า ในปี 67 บริษัทยังมุ่งมั่นสร้างการเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรม แม้ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมจะเติบโตลดลง 3% แต่บริษัทยังสามารถเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรมประมาณ 2% จากการรับรู้รายได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ และในปีนี้บริษัทมีแผนจะขยายผลิตภัณฑ์ไปสู่ยานยนต์แห่งอนาคต อาทิ รถยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งอยู่ระหว่างการศึกษาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในกลุ่มเครื่องจักรกลทางการเกษตร

ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ตั้งเป้ายอดผลิตรถยนต์ปี 67 อยู่ที่ 1.9 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปี 66 ที่ผลิตได้ 1.83 ล้านคัน เพิ่มขึ้นประมาณ 3.17% ซึ่งบริษัทคาดว่าจะเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรม โดยยังจะมีคำสั่งผลิตภัณฑ์เข้ามาและรับรู้เต็มปีในปีนี้ รวมทั้งประเทศไทยยังมีจุดแข็งในซัพพลายเชน โดยเฉพาะกลุ่มรถกระบะ

อย่างไรก็ตามบริษัทยังไม่สามารถระบุทิศทางผลการดำเนินงานในปีนี้ได้ โดยภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคและในประเทศการเติบโตค่อนข้างต่ำ ส่งผลกระทบต่อหนี้ครัวเรือนในประเทศที่มีอัตราสูงขึ้นมากกว่า 90% ทำให้ธนาคารเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ และส่งผลต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศและกระทบกับบริษัท ซึ่งต้องติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและบริษัทจะออกมาชี้แจงสถานการณ์ดังกล่าวในครั้งต่อไป

“แม้อุตสาหกรรมจะอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่บริษัทยังมีความมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโต นอกเหนือจากการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ โดยบริษัทยังมีโครงการต่าง ๆ ในการเพิ่มสัดส่วนทางการตลาด และการบริการจัดการในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันต่อเนื่อง ซึ่งเรามุ่งมั่นแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและสร้างการเติบโตให้เป็นไปตามแผนงาน”

ขณะที่การเข้ามาของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน และนำเอาซัพพลายเออร์ของตัวเองเข้ามาในไทยด้วย บริษัทคาดว่าจะส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อย เนื่องจากรถยนต์ EV จีน ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์นั่ง (Passenger Car) เป็นหลัก ซึ่งบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากรถยนต์นั่งประมาณ 10% โดยชิ้นส่วนรถยนต์นั่งจะเกี่ยวข้องกับงานหลอมเหล็กเหนียว และ Machining ซึ่งซัพพลายเออร์ที่ผู้ประกอบการจีนนำเข้ามาส่วนใหญ่จะเป็นชิ้นงานหล่อที่เป็นระบบชุด ทำให้บริษัทอาจพลาดโอกาสในการขยายงานไปสู่ชิ้นส่วนงานหล่อรถยนต์ EV จีน รวมทั้งอาจะมีแรงกดดันด้านการแข่งขันทางราคามากขึ้น

สำหรับไตรมาส 4/66 มีรายได้ 2,084 ล้านบาท ปรับตัวลดลงทั้ง QoQ และ YoY ตามภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์แต่ภาพรวมการดำเนินงานในปี 66 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 9,089 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เนื่องจากยอดขายในกลุ่ม Toyota model 4×4 และ 2×4 เพิ่มขึ้น รวมทั้งรับรู้รายได้เต็มปีของกลุ่มงานผลิตภัณฑ์ Axle Shaft ด้านกลุ่มชิ้นส่วนเครื่องจักรกลการเกษตรมียอดผลิตในปี 66 อยู่ที่ 65,000 คัน ลดลง 26% YoY จากภาวะเอลณีโญ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 มี.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top