ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก 3.7% ในเดือนมี.ค. และบวก 7% ในเป็นไตรมาสแรก

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (28 มี.ค.) ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และปิดบวกเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากปรับตัวในช่วงแคบ ๆ ในสัปดาห์นี้ก่อนวันหยุดยาวสุดสัปดาห์ โดยตลาดจะปิดทำการในวันศุกร์นี้เนื่องในวัน Good Friday และจะปิดทำการในวันจันทร์หน้า (1 เม.ย.) เนื่องในเทศกาลอีสเตอร์

  • ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 512.67 จุด เพิ่มขึ้น 0.92 จุด หรือ +0.18%
  • ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,205.81 จุด เพิ่มขึ้น 1.00 จุด หรือ +0.01%
  • ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,492.49 จุด เพิ่มขึ้น 15.40 จุด หรือ +0.08% และ
  • ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,952.62 จุด เพิ่มขึ้น 20.64 จุด หรือ +0.26%

ดัชนี STOXX 600 ปิดบวก 3.7% ในเดือนมี.ค. โดยบวกขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน และปิดบวก 7% ในไตรมาสแรกเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีท่ามกลางกระแสความนิยมในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI)

หุ้นกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและบริการ บวก 11% ในไตรมาสแรก ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารบวก 17.7%

หุ้นกลุ่มค้าปลีก เพิ่มขึ้น 1.4% โดยหุ้นเจดี สปอร์ตส ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกเครื่องแต่งกายด้านกีฬาแบรนด์อาดิดาสและแบรนด์อื่น ๆ พุ่งขึ้น 15.6% แตะระดับแข็งแกร่งที่สุดในรอบกว่า 4 ปี หลังจากยืนยันคาดการณ์ผลกำไรปีนี้

หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซปรับตัวขึ้น 0.7% ตามราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าผลผลิตน้ำมันจะตึงตัวขึ้นจากการที่กลุ่มโอเปกพลัสจะยังคงปรับลดกำลังการผลิตในปัจจุบัน

บรรดานักลงทุนยังคงมุ่งความสนใจในขณะนี้ไปที่การเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐ และกำหนดเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 มี.ค. 67)

Tags:
Back to Top