น้ำมัน WTI ปิดบวก 98 เซนต์ กังวลวิกฤตตะวันออกกลางลุกลาม

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (10 เม.ย.) หลังจากมีรายงานว่าบุตรชาย 3 คนของผู้นำกลุ่มฮามาสได้ถูกกองทัพอิสราเอลสังหารในระหว่างปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในฉนวนกาซา ซึ่งนักลงทุนมองว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส และอาจทำให้วิกฤตการณ์ในตะวันออกกลางลุกลามเป็นวงกว้าง

  • ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ หรือ 1.15% ปิดที่ 86.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.06 ดอลลาร์ หรือ 1.19% ปิดที่ 90.48 ดอลลาร์/บาร์เรล

ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น หลังจากสื่อรายงานว่าบุตรชาย 3 คนและหลาน 3 คนของนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาส ได้ถูกกองทัพอิสราเอลสังหารจากการโจมตีทางอากาศในฉนวนกาซาเมื่อวานนี้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่เครื่องบินรบของอิสราเอลโจมตีรถยนต์คันหนึ่ง ซึ่งครอบครัวของนายฮานิเยห์นั่งอยู่ข้างในเพื่อไปเฉลิมฉลองเทศกาลอีดิลฟิตรี (Eid al-Fitr) หลังสิ้นสุดเดือนรอมฎอน

ราคาน้ำมันยังปรับตัวขึ้นหลังจากนายอิสราเอล แคตส์ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิสราเอล โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม X หรือทวิตเตอร์เมื่อวานนี้ว่า อิสราเอลจะทำการตอบโต้หากอิหร่านโจมตีอิสราเอลโดยตรง โดยการโพสต์ข้อความดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากนายอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านเตือนว่า อิสราเอลจะต้องถูกลงโทษหลังก่อเหตุโจมตีสถานกงสุลอิหร่านในประเทศซีเรีย จนเป็นเหตุให้นายโมฮัมหมัด เรซา ซาเฮดี ผู้บัญชาการระดับสูงของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ของอิหร่านเสียชีวิต

ทั้งนี้ นักลงทุนมองว่าความขัดแย้งดังกล่าวอาจลุกลามเป็นวงกว้างในตะวันออกกลาง และอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาด โดยเฉพาะความขัดแย้งที่เกี่ยวข้องกับอิหร่านซึ่งเป็นสมาชิกรายใหญ่อันดับ 3 ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น 5.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 เม.ย. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 900,000 บาร์เรล

สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 715,000 บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล

นักลงทุนจับตารายงานภาวะตลาดน้ำมันรายเดือนของกลุ่มโอเปกซึ่งจะมีการเผยแพร่ในวันนี้ (11 เม.ย.) และรายงานภาวะตลาดน้ำมันจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ซึ่งจะมีการเผยแพร่ในวันศุกร์ (12 เม.ย.)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 เม.ย. 67)

Tags: , ,
Back to Top