หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าผันผวนรับราคาน้ำมันร่วงกดดัน เก็ง กนง.เลื่อนลดดอกเบี้ยตามเฟด

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังผันผวนคล้ายภูมิภาค ราคาน้ำมันดิบร่วงกว่า 2 ดอลลาร์กดดันขาย PTTEP ขณะที่วานนี้ TISCO แจ้งกำไร Q1/67 หดตัวและจะตั้งสำรองเพิ่มรองรับ NPL สูงขึ้นเหตุเศรษฐกิจไม่ได้โตโดดเด่น บวกกับกลุ่มไฟแนนซ์ยังรับปัจจัยลบจากเฟดส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยสูง ส่งผลให้การลดดอกเบี้ยของกนง.อาจเลื่อนตาม ให้แนวรับ 1,355 จุด และแนวต้าน 1,375 จุด

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งผันผวนต่อเนื่องสอดคล้องกับตลาดหุ้นเอเชียที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยมีแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงกว่า 2 ดอลลาร์อาจทำให้เกิดแรงขาย PTTEP ที่มีแรงเก็งกำไรเข้ามามากเมื่อวานนี้

ขณะที่ บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/67 กำไรหดตัว 3.3% YoY พร้อมเผย Outlook ในช่วงที่เหลือของปีนี้จะตั้งสำรองสูงขึ้น เนื่องจากคาดว่าเศรษฐกิจไม่ได้โตโดดเด่นอาจทำให้หนี้เสีย (NPL) กลุ่มสินเชื่อรถเพิ่มสูงขึ้น และการปล่อยสินเชื่อที่ชะลอลงตามความต้องการซื้อรถใหม่มีน้อยลง

รวมทั้งกลุ่มไฟแนนซ์ก็ยังคงมีแรงกดดันต่อเนื่อง หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าการปรับลดดอกเบี้ยอาจใช้เวลานานขึ้น ทำให้นักลงทุนให้น้ำหนักว่าการลดดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดอาจเลื่อนออกไปเป็นเดือนก.ย. จากเดิมคาดไว้ในเดือนมิ.ย. ซึ่งจะส่งผลให้การปรับลดดอกเบี้ยของคณะกรรมการการเงิน (กนง.) ของไทยคงเลื่อนตามไปด้วย
ให้แนวรับที่ 1,355 จุด และแนวต้าน 1,375 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (18 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,753.31 จุด ลดลง 45.66 จุด หรือ -0.12%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,022.21 จุด ลดลง 29.20 จุด หรือ -0.58% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,683.37 จุด ลดลง 181.88 จุด หรือ -1.15%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 37,745.04 จุด ลดลง 216.76 จุด หรือ -0.57% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดที่ระดับ 16,253.24 จุด เพิ่มขึ้น 1.4 จุด หรือ +0.008% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดตลาดที่ระดับ 3,060.03 จุด ลดลง 11.35 จุด หรือ -0.37%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (18 เม.ย.) 1,366.94 จุด ลดลง 29.44 จุด (-2.11%) มูลค่าซื้อขาย 62,396.97 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6,450.75 บาท (18 เม.ย.)
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. (18 เม.ย.) ลดลง 2.67 ดอลลาร์ หรือ 3.13% ปิดที่ 82.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 เม.ย.) อยู่ที่ 4.46 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 36.75 จับตา flow ต่างประเทศ
  • คดี “สายสีส้ม” ใกล้จบ เปิดความเห็น “ตุลาการ” ควรยกฟ้องตามคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ชี้เอกสาร RFP ฉบับ เดือน พ.ค.65 ชอบด้วยกฎหมายไม่ต้องรอ ครม.อนุมัติ และเป็นอำนาจของคณะกรรมการและ รฟม. ส่วนการรับฟังความคิดเห็นภาคเอกชนไม่เข้าข่ายกีดกันและไม่ละเมิด “บีทีเอส” จับตา ศาลปกครองสูงสุดนัดประชุมองค์คณะศาลชุดใหญ่ชี้ขาดต่อไป
  • STARK แจ้งยื่นขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการ “เฟลปส์ ดอด์จฯ” รวมวงเงิน 25,541 ล้านบาท พร้อมเผยจะได้รับชำระหนี้ตามที่ยื่นขอหรือไม่ยังขึ้นอยู่กับมติที่ประชุมเจ้าหนี้-ผู้ทำแผนใช้สิทธิโต้แย้ง
  • JKN กางแผน ไทม์ไลน์เร่งแก้ไขขอฟื้นฟูกิจการหลัง 23 เม.ย.นี้ ศาลนัดฟังคำสั่งฟื้นฟูและตั้งผู้ทำแผน พร้อมเล็งวางแผน “ตัดธุรกิจที่ขาดทุน” เตรียมขายธุรกิจที่ยังพอมีมูลค่าหนุนสภาพคล่อง ส่วนขั้นตอนดำเนินการตามแผนคาดเป็นม.ค.ปีหน้า
  • บีโอไอเผย 7 บิ๊กผลิตแบตอีวีจีนสนลงทุนไทย 2 ราย จ่อนำร่องทุ่ม 3 หมื่นล้านตั้งโรงงาน คลังเตรียมทบทวนภาษีมรดก
    ใหม่ อุดช่องโหว่เลี่ยงจ่าย ทองคำยังขาขึ้นขยับอีก 450 บาท ไตรภาคีเล็งปรับค่าจ้างขั้นต่ำรอบ 3 ให้ ทุกจังหวัดเสนอขึ้น 400 บาท

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SAPPE (ไอร่า) แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 96 บาท ประเมินแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/67 กำไรทำ New high ที่ 331 ล้านบาท จากยอดขายเพิ่มขึ้น ซึ่งมาจากยอดขายที่ตกค้างในปลายปีก่อน และยอดขายในประเทๆ ดีขึ้นจากอากาศที่ร้อน รวมถึงการออกสินค้าใหม่ และยังมองโมเมนตัมในไตรมาส 2-3/67 ยังทำกำไร New high ได้ต่อเนื่อง
  • BBL (กรุงศรี) แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 162 บาท เป็นหนึ่งในแบงก์ใหญ่ที่ได้รับประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยยังสูงต่อเนื่อง และสัปดาห์หน้าจะรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 คาดกำไร 1.18 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% QoQ และ 17% YoY ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยสูงในภาพระยะกลาง
  • CPALL (ลิเบอเรเตอร์) แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 72 บาท ยังคงได้รับแรงหนุนจากการบริโภคดีขึ้น ทำให้ทิศทางผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง และยังทำให้ SSSG เติบโตได้ดี อีกทั้ง Valuation อยู่ในระดับที่ไม่แพง ประกอบกับความคาดหวังเชิงบวกเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพละโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่จะเข้ามาเสริมในปลายปี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 เม.ย. 67)

Tags: , ,
Back to Top