YGG-CHAYO-ZIGA แท็คทีมรุก AI พัฒนาแพลตฟอร์ม-ต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ ขยายฐานลูกค้า

นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.อิ๊กดราซิล กรุ๊ป (YGG) เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ บมจ.ชโย กรุ๊ป (CHAYO) และ บมจ.ซิก้า อินโนเวชั่น (ZIGA) โดยทั้ง 3 บริษัทจะนำองค์ความรู้ พร้อมทั้งจุดแข็งของแต่ละฝ่ายมาร่วมพัฒนา และสนับสนุนธุรกิจเพื่อก่อให้เกิดการทำงานร่วมกัน (SYNERGY) และเป็นประโยชน์สูงสุดของการต่อยอดธุรกิจให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของแต่ละฝ่าย โดย MOU มีระยะเวลาผูกพันคู่สัญญา 3 ปี นับตั้งแต่วันลงนาม

สำหรับวัตถุประสงค์ความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยาย และสร้างฐานข้อมูลลูกค้าใหม่ซึ่งกันและกัน รองรับธุรกรรมหรือธุรกิจที่เกิดจากความร่วมมือ หรือทำธุรกิจทางการเงินและธุรกิจอื่นๆ มากขึ้น จากการวิเคราะห์ข้อมูลฐานลูกค้าโดยการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ ตลอดจนการสร้าง Platform ใหม่ๆ เพื่อพัฒนาและต่อยอดธุรกิจร่วมกันรวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมให้กับลูกค้า

นายธนัช กล่าวอีกว่า YGG จะนำองค์ความรู้มาต่อยอดในการพัฒนา Platform และ AI เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญ ทางด้านดิจิทัลคอนเทนต์ ด้านเกม ภาพยนตร์แอนนิเมชั่น คอมพิวเตอร์กราฟิก รวมทั้งมีฐานข้อมูลลูกค้าจากเกม ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งของ YGG ขณะที่ CHAYO เป็นมืออาชีพด้านการบริหารจัดการหนี้มีข้อมูลและฐานลูกค้า ซึ่งจากความร่วมมือจะสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ ด้านสินเชื่อในรูปแบบใหม่ เพื่อให้บริการและตอบโจทย์ลูกค้า และส่วนของ ZIGA เป็นผู้ผลิตสินค้าเหล็กนวัตกรรม ที่ขับเคลื่อนองค์กรด้วยการนำระบบเทคโนโลยี มาเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรนวัตกรรมจะช่วยเติมเต็มความร่วมมือในการส่งเสริมด้าน Innovation รูปแบบของผลิตภัณฑ์ ใหม่ๆ รวมไปถึง Block chain

สำหรับรายได้จากความร่วมมือดังกล่าวส่วนหนึ่งจะเข้ามาในธุรกิจการให้บริการ และธุรกิจ Product ซึ่งธุรกิจการให้บริการยังเติบโตต่อเนื่อง และธุรกิจ Product จะเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด จากการนำ Product ของ YGG ไปเชื่อมต่อกับพันธมิตรอื่น ๆ

ขณะที่ความร่วมมือระยะกลาง-ยาว มองว่ากลุ่มธุรกิจ Entertainment เป็นกลุ่มธุรกิจที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก แต่ติดข้อจำกัดต่าง ๆ ในการขอกู้เงินจากสถาบันการเงิน ซึ่งหากมีการปล่อยสินเชื่อเพื่อดำเนินธุรกิจหรือทำให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น เชื่อว่ากลุ่มธุรกิจดังกล่าวจะสามารถทำรายได้เข้าสู่ประเทศได้มากขึ้น

CHAYO คาดหนุนรายได้โตอย่างน้อย 10-20%

ด้านนายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHAYO กล่าวว่า การผสานความร่วมมือกับ 3 ผู้นำทางธุรกิจ ระหว่าง CHAYO YGG และ ZIGA เพื่อนำจุดแข็งมา ต่อยอดโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน โดยกลุ่มบริษัท CHAYO มีความแข็งแกร่งในธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (AMC) ทั้งมีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ณ สิ้นปี 2566 มีพอร์ตบริหารหนี้รวมทะลุ 100,000 ล้านบาท รวมทั้งยังให้บริการเจรจาติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้ ให้บริการศูนย์ข้อมูลลูกค้าให้กับ ผู้ว่าจ้างผ่านทางระบบโทรศัพท์ และให้บริการคำปรึกษาด้านแรงงาน ซึ่งบริษัทที่เป็นเรือธงในธุรกิจด้านการเงิน โดยบมจ. ชโย แคปปิตอล (CCAP) ได้รับไลเซ่นส์ประกอบธุรกิจสินเชื่อ 3 ประเภท คือ นาโนไฟแนนซ์ พิโกไฟแนนซ์ และสินเชื่อส่วนบุคคล ปัจจุบันดำเนินธุรกิจปล่อยสินเชื่อ ทั้งแบบที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน รวมถึง สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน และให้บริการเบิกเงินเดือนล่วงหน้า

โดย CCAP อยู่ระหว่างเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 125 ล้านหุ้น คาดจะเข้า IPO ช่วงไตรมาส 3/67 – ไตรมาส 4/67 ด้วยความครบวงจรของกลุ่มบริษัท ทำให้เรามองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจ ผ่านการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี และความก้าวล้ำของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI โดยเฉพาะให้ความสำคัญกับข้อมูลอย่าง Big Data เพื่อใช้ใน การวิเคราะห์ฐานข้อมูลในระบบ จึงมั่นใจว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะสนับสนุนให้กลุ่มบริษัทสามารถให้บริการและส่งมอบประสบการณ์ทางการเงินให้เหมาะสมกับลูกค้าของเราได้เหนือความคาดหมายยิ่งขึ้น และขยายพอร์ตให้เติบโตอย่างมั่นคง ภายใต้ความเสี่ยงที่รัดกุม

นายกิตติ ตั้งศรีวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHAYO เปิดเผยว่าความร่วมมือดังกล่าวคาดว่าจะสร้างการเติบโตของรายได้ให้กับ CHAYO ได้อย่างน้อย 10-20% ขณะที่ระยะกลางต้องศึกษาต่อเพื่อพิจารณาว่าจะสามารถต่อยอดส่งเสริมการดำเนินธุรกิจระหว่างกันๆได้อย่างไรบ้าง ขณะที่ภาพรวมปี 67 ตั้งเป้ารายได้รวมเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากภาพรวมหนี้เสียที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และวางงบลงทุนในการซื้อหนี้เพิ่มประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะซื้อหนี้เสียเพิ่มได้ 10,000 – 15,000 ล้านบาท

ZIGA คาดหนุนลูกค้าโตเท่าตัว-ต่อยอด Bitcoin

นายศุภกิจ งามจิตรเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ZIGA กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยต่อยอดธุรกิจของกลุ่ม ZIGA ให้มีความแข็งแกร่งและมีการเติบโตอย่างยั่งยืนตอบโจทย์การให้บริการลูกค้ามากขึ้น จากปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าที่เป็น B2C ประมาณ 50,000 ราย ซึ่งการมีพันธมิตรในครั้งนี้จะทำให้ฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเป็นหลักแสน เนื่องจากลูกค้าสามารถตัดสินใจใช้บริการของ ZIGA ได้ง่ายขึ้น ทั้งในเรื่องของการให้สินเชื่อผ่านแอปพลิเคชั่น CHAYO ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตร และในส่วนของกลุ่ม YGG จะเข้ามาซัพพอร์ตในเรื่องของ AI เพื่อต่อยอด Bitcoin ที่บริษัทมีอยู่ ซึ่งจะตรงกับคอนเซ็ปต์ “ZIGA ที่ไม่ได้มีแค่เหล็ก”

“ความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นหนึ่งทางเลือกให้กับลูกค้า เนื่องจากเดิมธุรกิจเหล็กเป็นธุรกิจเงินสด ซึ่งลูกค้าสามารถขอสินเชื่อผ่าน CHAYO และนำเครดิตวงเงินมาซื้อสินค้ากับ ZIGA ได้เลย นี่เป็นแผนระยะสั้นที่จะเกิดยอดได้ทันที โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนอย่างช้าภายในสิ้นปีนี้”

ขณะที่แผนในอนาคตอาจพิจารณาทำ Platform ใหม่ร่วมกัน จากปัจจุบันที่ต่างบริษัทมี Platform เป็นของตัวเอง อย่างไรก็ตามแผนภายใน 3 ปีอยู่ระหว่างการศึกษาและพิจารณาเพื่อต่อยอดธุรกิจและเกื้อหนุนกับทุกพันธมิตร

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 เม.ย. 67)

Tags: , , , , , , , ,
Back to Top