CryptoInsight: ถ้าเลือกได้ควรถือ Ethereum หรือ Bitcoin??

หากพูดถึงคริปโทฯ หลายคนอาจนึกถึง “บิทคอยน์” แต่หารู้ไม่ว่ายังมีกลุ่มคนอีกมาก รวมไปถึงนักพัฒนา นักลงทุน ที่ไม่ได้มอง “บิทคอยน์” เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลอันดับ 1 ในใจ แต่เขากลับมอง “อีเธอเรียม” (Ethereum : ETH) เหรียญคริปโทฯ ที่มี Marketcap เป็นอันดับ 2 รองมาจากบิทคอยน์ อะไรทำให้คนเหล่านั้นให้ความสำคัญกับ “Ethereum”??

ผศ.ดร.อุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน ผู้ร่วมก่อตั้งและที่ปรึกษา Forward Lab และเจ้าของเพจ “ติดเล่า เรื่องลงทุน” ให้สัมภาษณ์กับ”อินโฟเควสท์”ว่า Ethereum แม้ไม่โดดเด่นในเรื่อง “Store of Value” แต่กลับมีประโยชน์มากมายสำหรับนักพัฒนา เปรียบเสมือนบริษัทที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่นักลงทุนหรือผู้ถือครอง ด้วยคุณลักษณะที่สามารถนำมาพัฒนาต่อยอด ผนวกเข้ากับผลิตภัณฑ์ทางการเงินบนโลก Web3 อย่าง “Staking” และ “Re-Staking” สร้างรายได้เพิ่มให้แก่ผู้ที่เข้าไปใช้งาน

นอกจากนี้ ในอนาคตที่ Ethereum SPOT ETF จ่อรอการอนุมัติให้จัดตั้ง แถมด้วยพื้นฐานราคาที่มีโอกาสในการเติบโตค่อนข้างสูง ไม่แปลกเลยที่นักลงทุนหลายคนชื่นชอบ ETH มากกว่า “บิทคอยน์”

ในเมื่อเรามี “บิทคอยน์” เป็นพี่ใหญ่ แต่ Ethereum ก็น่าสนใจเหลือเกิน จะเลือกถืออะไรดี?? ไขมุมมองสินทรัพย์ดิจิทัลเอาใจนักลงทุน พร้อมวิธีปรับสภาพจิตใจก่อนเข้าสู่ตลาดคริปโทฯ

*”ETH Spot ETF” หากได้รับการอนุมัติแล้ว ราคาพุ่งทะยานหรือไม่??

นักลงทุนหลายคนเห็นความสำเร็จจากการที่ “BTC Spot ETF” ได้รับการอนุมัติไปเป็นที่เรียบร้อย พร้อมการเคลื่อนไหวของราคา จึงเป็นที่มาของ “ETH Spot ETF” ว่าจะได้รับอนุมัติเมื่อไหร่ ซึ่งหากดู Timeline แล้วโอกาสที่จะได้รับกาอนุมัติภายใน พ.ค. 67 ค่อนข้างน้อย ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงประเด็นที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนานว่า Ethereum ถือเป็น Securities หรือไม่? คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในช่วง ส.ค.67 อีกครั้งหนึ่ง

การที่ราคาจะพุ่งหรือไม่ ไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวล หากเราดูจากตัวอย่างของ “BTC Spot ETF” ที่ปัจจุบันยังมีกองทุนเจ้าใหญ่ระดับโลกที่ซื้อทุกวันอย่าง BlackRock ในขณะที่บริษัทที่ถือครองบิทคอยน์ตั้งแต่เริ่มต้นอย่าง Grayscale เริ่มมีการทยอยขาย บิทคอยน์เริ่มมีการเปลี่ยนมือ วันใดที่ Grayscale ขายจนหมด วันนั้นจะเป็นวันที่ Grayscale ต้องกลับมาซื้ออีกครั้ง สิ่งนี้คือการวางเดิมพันระหว่างเจ้าใหญ่ระดับโลก 2 เจ้า ที่ไม่ว่าใครจะชนะ ราคา “บิทคอยน์” ย่อมมีการพุ่งขึ้นอย่างแน่นอน ตัว “ETH Spot ETF” ก็เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ “ETH Spot ETF” นับว่าน่าสนใจ และเห็นภาพได้ง่ายกว่า “BTC Spot ETF” ตัว Ethereum เปรียบเสมือนบริษัทที่สามารถสร้างรายได้และพัฒนาต่อยอดได้เรื่อยๆ และด้วยการเปลี่ยนแปลงวิธีการขุดของ ETH จากเดิม Proof-of-Work(PoW) เป็น Proof-of-Stake (PoS) ปัจจุบันจึงมีการนำเหรียญ ETH ไปฝาก (Staking) เพื่อร่วมกันทำงานเป็น Validator ยืนยันธุรกรรมและแบ่งปันผลประโยชน์กัน

ผู้ที่นำ ETH ไป Stake มีโอกาสได้รับทั้งรายได้ และได้รับโทเคนอย่าง Liquid Staking ซึ่งสามารถนำ Liquid Staking ไปใช้งานหรือทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มอื่นได้อีกด้วย (กระบวนการนี้เรียกว่า Re-Staking)

*”Bitcoin Halving 2024 ราคาเป้าหมาย??”

“จากที่ผ่านมา หลังจากเกิด Bitcoin Halving แล้วราคาจะค่อย ๆ ปรับตัวขึ้นจนไปถึง All Time High แต่ปีนี้เป็นครั้งแรกที่บิทคอยน์ทำราคา All Time High ก่อนเกิด Halving สาเหตุหลักจากเม็ดเงินฝั่งสถาบันที่ไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง และนี่คือ “ตลาดใหม่” สำหรับฝั่งสถาบัน โอกาสที่ฝั่งสถาบันทยอยซื้อบิทคอยน์เพื่อทำกำไรโดยการซื้อถูก ขายแพง จึงไม่น่าเกิดขึ้น กลับกลายเป็นว่าฝั่งสถาบันต้องพยายามเก็บของให้ได้มากที่สุดมากกว่า”

“ตลาดคริปโทฯ มีความคล้ายคลึงกับตลาดหุ้นค่อนข้างสูง” แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ Volatility (ความผันผวน) และการปรับตัวของตลาดที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว วิธีรับมือกับตลาดที่มีความผันผวนคือการ Limit จำนวนเงินลงทุนของคุณ ไม่ลงทุนเกินจำนวนเงินที่สามารถเสียได้ จะเป็นวิธีป้องกันได้ระดับหนึ่ง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 เม.ย. 67)

Tags: , , , , , ,
Back to Top