นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า นโยบายในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หากดูจากเอกสารคำแถลงเปรียบเทียบกับรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน รอบที่แล้วอาจมีการปรับเปลี่ยนไปบ้าง แต่โดยรวมมีข้อความที่พูดถึงประเด็นในลักษณะกว้าง ๆ ดังนั้นเพื่อความชัดเจน เราจะมีข้อซักถามเพิ่มเติมในวันแถลงนโยบาย
เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ควรทำ 2 ทางคู่ขนานกันไป คือ
1.การทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีความชอบธรรมทางประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด ซึ่งต้องยอมรับว่าโรดแมปของรัฐบาลที่วางไว้ว่าจะต้องมีการทำประชามติ 3 ครั้งนั้น แต่การจัดทำรอบแรกยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อคำนวณดูแล้วอาจจะมีความสุ่มเสี่ยงที่จะไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่บังคับใช้พร้อมกับกฎหมายลูกทันการเลือกตั้งปี 70
สิ่งที่ตั้งคำถามคือ ประเด็นแรกมีการวางโรดแมปไว้อย่างไร ประเด็นที่สองหากจะเดินหน้าทำประชามติรอบแรกอย่างไร โดยการถามประชาชนว่า “ควรมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่” และจะยังยืนยันคำถามตามที่คณะกรรมการฯ ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานเสนอมาหรือไม่ เป็นการสร้าง 2 คำถามในคำถามเดียวกัน ซึ่งอาจสร้างความสับสนในการลงคะแนนได้ เพราะก่อนหน้านี้ได้มีการเรียกร้องให้รัฐบาลของนายเศรษฐามีการทบทวนคำถามดังกล่าวแล้ว และต้องรอดูว่าท่าทีของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร จะยืนยันตามคำถามเดิม หรือจะมีการปรับข้อความที่เปิดกว้างและชัดเจนมากขึ้น
และประเด็นที่สามรัฐบาลจะเสนอหรือสนับสนุนให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้ง 100% หรือไม่ เนื่องจากประเด็นนี้ไม่มีการระบุในเอกสารแถลงนโยบาย แต่หากอ้างอิงกันที่ผ่านมาจะเห็นว่าพรรคเพื่อไทยเคยมีการเสนอในลักษณะนี้ แต่ไม่เคยได้คำยืนยันในนามคณะรัฐมนตรีหรือรัฐบาลเลย
2.การแก้ไขรายมาตรา เราไม่ได้บอกว่าต้องแก้ไขแทนที่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่เห็นว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องใช้เวลา 1-2 ปีขึ้นไป จึงมองว่าหากมีมาตราหรือประเด็นไหนในรัฐธรรมนูญปี 60 ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขก็ควรมีการเสนอแก้ไขรายมาตรา
ทั้งนี้ พรรคประชาชนได้มีการเสนอไปแล้ว 3 ร่าง ซึ่งล้วนมีวัตถุประสงค์ลบล้างผลพวงรัฐประหาร ทั้งการยกเลิกมาตรา 279 ป้องกันการเกิดรัฐประหาร และยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยจะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 25 ก.ย.นี้ และจากที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย ได้มีการหารือกันว่าหากฝ่ายไหนต้องการจะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราในประเด็นอื่น ๆ ก็สามารถยื่นเข้ามาได้
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ไม่ได้กังวลว่าจะมีการประวิงเวลาจนไม่สามารถตั้ง ส.ส.ร. เพื่อนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ ที่พรรคประชาชนยืนยันมาโดยตลอดคือปีศาจอยู่ในรายละเอียด คำถามคือรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนใครจะเป็นคนร่าง และมาจาก ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้ง 100% หรือไม่ แล้วท้ายที่สุดรัฐบาลวางโรดแมปไว้อย่างไรให้เรามีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่บังคับใช้ทันการเลือกตั้งปี 70 รวมถึงมีการสนับสนุนการแก้ไขรายตราที่มีปัญหาเร่งด่วนด้วยหรือไม่
ส่วนคำตอบสุดท้ายที่พรรคประชาชนอยากได้จากรัฐบาลคือ อยากได้โรดแมปที่ชัดเจนว่าจากวันนี้จนถึงวันที่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีการกำหนดระยะเวลาไว้อย่างไร เพราะเป็นสิ่งที่รัฐบาลนายเศรษฐาเคยสัญญาไว้ จะมีการทบทวนคำถามประชามติรอบแรกหรือไม่ และจะให้มี ส.ส.รที่มาจากการเลือกตั้ง 100% หรือไม่ รวมถึงการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา คงต้องลงรายละเอียดในแต่ละประเด็น แต่วันที่ 25 ก.ย.นี้จะได้เห็นจุดยืนและท่าทีของสมาชิก ทั้ง สส.ฝ่ายรัฐบาลและ สว.ชุดใหม่ อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
การทบทวนอำนาจและหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่มีการขยายขอบเขตให้กว้างมากขึ้น หากเทียบกับรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้นั้น แน่นอนว่าอำนาจที่ถูกขยายมามีหลายส่วน เช่น การยุบพรรคที่อยู่ใน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และอำนาจจริยธรรมที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาใหม่ในรัฐธรรมนูญปี 60 ซึ่งที่ผ่านมามีการแลกเปลี่ยนความเห็นกันจากทุกฝ่าย แต่ฝ่ายไหนจะเสนอร่างแก้ไขกฎหมายอย่างไร และจะทันกรอบวันที่ 25 ก.ย.หรือไม่ คงต้องรอดูกันอีกทีเช่นกัน
สำหรับพรรคประชาชนจะมีการเสนอร่างอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ คงต้องมีการหารือกันภายในพรรคก่อน แต่หากจะมีการเสนอให้ทันในวันที่ 25 ก.ย.นี้ คงต้องมีการดำเนินการในระยะเวลาอันสั้นนี้ เพื่อให้ผ่านเข้าสู่ขั้นตอนการบรรจุลงระเบียบวาระทัน เราเชื่อมั่นว่า เราอยากเห็นการพูดคุย เรื่องการแก้ไขรายมาตราคู่ขนานกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มากขึ้น หากใครมีประเด็นที่อยากจะแก้ ซึ่งอาจไม่ทันวันที่ 25 ก.ย.นี้ ก็หวังว่าคงจะมีวาระการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาเพิ่มเติมในวันอื่น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.ย. 67)
Tags: การเมือง, พรรคประชาชน, พริษฐ์ วัชรสินธุ, แก้รัฐธรรมนูญ