นายมนตรี คงเครือพันธุ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) กล่าวว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย อายุ 4 ปี และ 7 ปี ให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป โดยคาดว่าเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 8 และ 11-12 พ.ย. 67
บริษัทมั่นใจว่าการออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะเป็นการสร้างโอกาสการลงทุนในธุรกิจที่มีความมั่นคงเติบโตและสอดคล้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยหุ้นกู้ได้รับจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “AAA(tha)” (เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ) จากบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 67 สะท้อนความแข็งแกร่งในธุรกิจและสถานะทางการเงินที่มีความมั่นคง
พร้อมแต่งตั้ง 7 สถาบันการเงินชั้นนำเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ธนาคารกรุงไทย (KTB) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ธนาคารยูโอบี และบล.เกียรตินาคินภัทร
หุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนในครั้งนี้จะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering) จำนวน 2 รุ่น อายุ 4 ปี และ 7 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่หลากหลายของผู้ลงทุน กำหนดการชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ผู้ลงทุนทั่วไปจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท ทั้งนี้ รายละเอียดอัตราดอกเบี้ยจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
บริษัทมั่นใจว่าหุ้นกู้ที่เสนอขายในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนที่เป็นประชาชนทั่วไปที่ต้องการลงทุนในบริษัทที่มีความมั่นคงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ซึ่งการออกหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนในครั้งนี้จะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งและช่วยสร้างการเติบโตให้กับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของ AIS ภายใต้วิสัยทัศน์การขับเคลื่อนสู่การเป็นองค์กรโทรคมนาคมเทคโนโลยีอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-Co ภายใต้แนวคิด Sustainable Nation ที่มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศไทยบนเศรษฐกิจแบบร่วมกัน หรือ ECOSYSTEM ECONOMY ทั้ง ผู้คน สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ในโลกดิจิทัล
โดยเฉพาะการมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพ ทั้งโครงข่าย 5G ที่วันนี้ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการแล้วกว่า 95% ของพื้นที่ประชากร โครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่เข้าถึงกว่า 13.3 ล้านครัวเรือน ทั่วประเทศ และนวัตกรรมแพลตฟอร์มสำหรับองค์กรที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมหลักของประเทศ โดยการออกหุ้นกู้ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการขยายโครงข่าย 5G เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้ประชาชนหรือกลุ่มครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล
สำหรับการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกของปี 67 มีรายได้จากการให้บริการหลักอยู่ที่ 79,665 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการเติบโตของรายได้การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการเติบโตของการใช้ข้อมูลและรายได้ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว
ประกอบกับธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งกว่า 159% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนจากการรับรู้รายได้ TTTBB และการเติบโตไปยังพื้นที่ใหม่ๆ ร่วมกับการปรับตัวเพิ่มขึ้นของ ARPU จากกลยุทธ์ส่งเสริมการขายพ่วงบริการคอนเทนต์ สำหรับรายได้บริการลูกค้าองค์กรและอื่น ๆ เติบโตขึ้น 33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการรับรู้รายได้ TTTBB และการเติบโตขึ้นของความต้องการบริการเชื่อมต่อสื่อสารดิจิทัลและคลาวด์
บริษัทมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เติบโต 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการรับรู้ผลประกอบการของ TTTBB และการเติบโตของธุรกิจปกติโดยกำไรสุทธิในงวดครึ่งปีแรกของปี 67 อยู่ที่ 17,028 ล้านบาท เติบโต 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ตามผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นและการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก 3BBIF
AIS ยังมีเป้าหมายใหญ่ในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งในมิติของการขับเคลื่อนดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนให้ผู้คนและภาคธุรกิจเติบโตได้ใน Digital Economy รวมถึงในมิติของการสร้างสังคมดิจิทัล ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์และปลอดภัยให้มีทักษะและเป็นพลเมืองดิจิทัล และมิติสุดท้ายคือ ด้านการยืนหยัดเพื่อสิ่งแวดล้อม ที่วันนี้เรามุ่งลดผลกระทบผ่านการบริหารจัดการ กระบวนการดำเนินธุรกิจและห่วงโซ่อุปทาน ด้วยนวัตกรรม โซลูชั่น รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งผลในการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงลดและรีไซเคิลของเสียจากการดำเนินธุรกิจและส่งเสริมให้คนไทยร่วมกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี ทั้งหมดคือเป้าหมายการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่เดินหน้า สร้างการเติบโตร่วมกันของคนและสิ่งแวดล้อมในโลกดิจิทัล
โดยฟิทช์ เรทติ้งส์ ประเมินว่า AIS มีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยมีส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการประมาณ 48% และเชื่อว่าอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่จะได้รับประโยชน์จากการแข่งขันด้านราคาที่สมเหตุสมผลมากขึ้นในประเทศไทย ซึ่งจะสนับสนุนรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการ และการเติบโตของรายได้ของ AIS
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ย. 67)
Tags: ADVANC, มนตรี คงเครือพันธุ์, หุ้นไทย, แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส