หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นรีบาวด์ตามภูมิภาค ขานรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐดีกว่าคาด

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้ลุ้นรีบาวด์ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังตลาดหุ้นสหรัฐพลิกเป็นบวกจากตัวเลขการจ้างงานออกมาสูงกว่าคาด หนฺน sentiment ตลาดเอเชีย แม้ยังกังวลสถาการณ์ตึงเครียดตะวันออกกลางอยู่ก็ตาม พร้อมให้แนวต้าน 1,460 จุด แนวรับ 1,440 จุด

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสรีบาวด์ และแกว่งตัวในกรอบ หลังจากเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐพลิกกลับมาเป็นบวกได้ จากตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาด ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐตอบรับในเชิงบวก และหนุนต่อ sentiment ของตลาดหุ้นเอเชียในเช้านี้ที่เปิดมาปรับตัวขึ้นตาม

อย่างไรก็ตามปัจจัยความตึงเครียดสถาการณ์ไนตะวันออกกลางยังคงมีอยู่ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ตลาดยังมีความกังวลอยู่บ้าง ประกอบกับค่าเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่าลงเล็กน้อย ทำให้ต่างชาติอาจจะยังชะลอการเข้าซื้อ แต่ยังคงมีเม็ดเงินของกองทุนวายุภักษ์ที่ทยอยเข้ามาเสริม

โดยให้แนวต้าน 1,460 จุด แนวรับ 1,440 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (2 ต.ค.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,196.52 จุด เพิ่มขึ้น 39.55 จุด หรือ +0.09%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,709.54 จุด เพิ่มขึ้น 0.79 จุด หรือ +0.01% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,925.12 จุด เพิ่มขึ้น 14.76 จุด หรือ +0.08%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 38,459.13 จุด เพิ่มขึ้น 650.37 จุด หรือ +1.72% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 22,484.04 จุด เพิ่มขึ้น 40.31 จุด หรือ +0.18%, ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 0.25% ส่วนตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการในวันนี้เนื่องในวันชาติ
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 ต.ค.67) ที่ 1,451.40 จุด ลดลง 13.26 จุด (-0.91%) มูลค่าซื้อขาย 57,926.56 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (2 ต.ค.67) 5,414.36 ล้านบาท
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.39% ปิดที่ 70.1 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 ต.ค.67) อยู่ที่ 2.48 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.92 แนวโน้มอ่อนค่า จับตาถ้อยแถลงเจ้าหน้าที่เฟด-สถานการณ์ตอ.กลาง
  • กกร.ชี้เงินบาทแข็งค่ารวดเร็ว 12% ใน 3 เดือน มากกว่าค่าเงินอื่นในภูมิภาค หากปล่อยให้เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องหวั่นกระทบรายได้ส่งออก 1.8-2.5 แสนล้านบาท จี้ ธปท.เร่งปรับลดดอกเบี้ย ห่วงน้ำท่วมรอบใหม่สร้างความเสียหาย 3-5 หมื่นล้านบาท
  • “กทพ.” เดินหน้า ปลุกพื้นที่เชิงพาณิชย์ใต้ทาง ด่วน-สร้างที่พักริมทาง ดึงเอกชนร่วมทุน PPP สัมปทาน 30 ปี เพิ่มรายได้ 600 ล้านบาทภายใน 4 ปี พร้อมชง ครม.เคาะประมูลที่พักริมทางบางโปรงภายในปีนี้
  • “พาณิชย์” เผยกินเจคึกคัก พบคนออกมาจับจ่ายใช้สอย ชี้ได้อานิสงส์เติมเงินหมื่นให้กลุ่มเปราะบาง ด้าน ธพ.เผยยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 8 เดือน ปี 67 ขยายตัว 1%

*หุ้นเด่นวันนี้

  • WHA (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6.30 บาท ภาพกลุ่มนิคมฯปี 67-68 คาดยังมีแรงหนุนจากการตั้งฐานผลิตกลุ่มEV และการตั้ง Data Center รวมถึงการย้ายฐานผลิตจากจีนมาไทย โดย WHA วางเป้ารายได้รวม (รวมส่วนแบ่งกำไร) ราว 1.5 หมื่นล้านบาท EBITDA>50% เป้าขายที่ดินปีนี้ 2,500 ไร่ (เพิ่มขึ้นเป้าเดิม 2,275 ไร่) +18%YOY เน้นที่ดินในไทย 2,300 ไร่ ส่วนที่เหลือ 200 ไร่เป็นที่ดินในเวียดนาม เบื้องต้นฝ่ายวิเคราะห์ประเมินกำไรปี 67 และ 68 ที่ 4,645 ล้านบาท (+5%YoY) และ 5,943 ล้านบาท (+28%YoY)
  • MINT (กสิกรไทย) “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 43.02 บาท ยังค่อนข้าง Laggard ประกอบกับราคาหุ้นยืนได้ค่อนข้างดีเมื่อวานนี้ที่ SET ลงแรง มองเป็นจังหวะซื้อต่อ ปัจจัยสนับสนุน แนวโน้ม Q3/67 ที่น่าจะออกมาดีจากการจัดงานโอลิมปีกในยุโรปซึ่งเป็นตลาดหลัก นอกจากนี้เงินเฟ้อชะลอตัวลงหนุน ECB ลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง ช่วยลดต้นทุนทางการเงินและกระตุ้นกำลังซื้อ ยังมีโอกาสได้รับอานิสงส์นักท่องเที่ยวจีนช่วง Golden Week มีแนวโน้มเลือกยุโรปเป็นจุดหมายปลายทางตามรายงานของ Trip.com
  • TU (พาย) ซื้อ ราคาเป้าหมาย 18.30 บาทช่วง H2/67 ในแง่รายได้คาดยังเติบโตโตได้ดีในทุกธุรกิจ เพราะเข้าสู่ช่วง High Seasons การส่งออกแล้ว รวมถึงจะเริ่มเห็นผลดีจากการตลาดสินค้าแบรนด์ตัวเองที่เริ่มมาตั้งแต่ต้นปี ขณะที่ธุรกิจอาหารแช่แข็งจะเป็นการเทียบกับฐานเดียวกันแล้ว ด้านกำไรขั้นต้นคาดยังรักษาระดับสูงได้ต่อ หลังจากราคาทูน่าปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่เคยคาดไว้ (เดิมเคยคาดทั้งปีอยู่ที่มากกว่า 1,600 เหรียญฯ/ตัน เหลือต่ำกว่า 1,500 เหรียญฯ/ตัน)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ต.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top