EXIM BANK โชว์ Q3/67 อนุมัติสินเชื่อใหม่ 3.4 หมื่นลบ. เสริมแกร่งผู้ส่งออกไทยสู่เวทีโลก

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ว่า ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปีนี้ EXIM BANK มีวงเงินอนุมัติสินเชื่อใหม่ 34,290 ล้านบาท และมีสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพัน 170,630 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 3,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในจำนวนนี้เป็นสินเชื่อคงค้าง และภาระผูกพันเพื่อการลงทุน 124,720 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 73.09% ของยอดทั้งหมด โดยเป็นสินเชื่อคงค้าง และภาระผูกพันในโครงการระหว่างประเทศ 44,850 ล้านบาท เมื่อจำแนกเป็นรายตลาดที่สำคัญ EXIM BANK สนับสนุนธุรกิจไทยให้ขยายไปกลุ่มประเทศ CLMV และ New Frontiers ที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง โดยมีสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันในกลุ่ม CLMV และ New Frontiers 39,593 ล้านบาท

EXIM BANK ภายใต้บทบาท Green Development Bank ได้พัฒนานวัตกรรมทางการเงินสีเขียว (Greenovation) อาทิ สินเชื่อ EXIM Green Start สำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เพื่อสร้างระบบนิเวศการค้าและการลงทุน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ สนับสนุนให้ธุรกิจไทยสามารถปรับตัว รับมือ และปฏิบัติตามมาตรการทางการค้าด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างครบวงจรตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ส่งผลให้ EXIM BANK มีสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันเพื่อความยั่งยืน (ESG) 62,543 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 36.65% ของยอดทั้งหมด

ในมิติสังคม EXIM BANK มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง อาทิ มาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ SMEs ที่ประสงค์ปรับปรุงโครงสร้างหนี้เชิงป้องกัน (มาตรการ Pre-emptive) เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือจากธนาคารอย่างตรงจุด และทันท่วงที, สินเชื่อ EXIM Happy Export Credit เงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจส่งออก และบริการสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าในอัตราแลกเปลี่ยนพิเศษ (Happy Foreign Exchange Forward Contract) เป็นต้น

นอกจากนี้ EXIM BANK เร่งเสริมสร้างความมั่นใจและภูมิคุ้มกันความเสี่ยงแก่ผู้ส่งออก และนักลงทุนไทย ผ่านบริการประกันการส่งออกและการลงทุน โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจสะสมบริการประกัน เท่ากับ 161,285 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.66% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายรักษ์ กล่าวว่า จากการขยายบทบาทมุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ทั้งด้านสินเชื่อและประกันของ EXIM BANK เพื่อเป็นเสาหลักสนับสนุนธุรกิจทุกขนาด ทุกอุตสาหกรรม ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2567 EXIM BANK มีจำนวนลูกค้า 5,634 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการ SMEs กว่า 80%

นอกจากนี้ EXIM BANK สนับสนุนผู้ประกอบการอย่างครบวงจร ผ่านการบ่มเพาะ ให้ความรู้ จับคู่ธุรกิจ และให้คำปรึกษาทางการเงิน ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2567 EXIM BANK ได้ส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการสะสมกว่า 21,500 ราย สะท้อนถึงการอยู่เคียงข้างผู้ประกอบการไทยที่เป็นคนตัวเล็กและกลุ่มเปราะบางให้เติบโต และแข่งขันได้ในเวทีโลก รวมทั้งสามารถปรับตัวรับมือกับมาตรฐานการค้าโลกและกฏระเบียบต่าง ๆ ที่เข้มงวดขึ้นได้

โดยในมิติการกำกับดูแลกิจการที่ดี EXIM BANK ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทางการเงินเพื่อความยั่งยืน ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 EXIM BANK มีกำไรก่อนสำรอง 2,426 ล้านบาท มีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จำนวน 8,603 ล้านบาท และมีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss) จำนวน 17,708 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง คิดเป็นอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) 205.83% เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจสูงขึ้น จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่กระทบการค้าการลงทุน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 พ.ย. 67)

Tags: , ,
Back to Top