ความเชื่อมั่นผู้บริโภคออสเตรเลียฟื้นตัวในพ.ค. หลังผลกระทบจากสงครามภาษีเริ่มคลี่คลาย

ดัชนีวัดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในออสเตรเลียฟื้นตัวขึ้นมาได้บางส่วนในเดือนพ.ค. เนื่องจากความกังวลจากผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เป็นผู้ริเริ่ม เริ่มเบาบางลง ซึ่งการฟื้นตัวนี้น่าจะได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากการที่ทั้งสองประเทศตกลงพักรบทางการค้ากันชั่วคราว

ผลสำรวจจากสถาบันเวสต์แพค-เมลเบิร์น (Westpac-Melbourne Institute) ที่เปิดเผยในวันนี้ (13 พ.ค.) แสดงให้เห็นว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคหลักปรับตัวสูงขึ้น 2.2% ในเดือนพ.ค. หลังจากที่เคยดิ่งลงถึง 6.0% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นช่วงแรกที่ทรัมป์ประกาศใช้มาตรการภาษีตอบโต้

แม้ดัชนีล่าสุดนี้จะอยู่ที่ 92.1 ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 12% แต่ตัวเลขดังกล่าวยังคงสะท้อนว่า จำนวนผู้บริโภคที่มองสถานการณ์ในแง่ลบ ยังมีมากกว่าผู้ที่มองในแง่บวก

หัวหน้าฝ่ายพยากรณ์เศรษฐกิจมหภาคออสเตรเลียของเวสต์แพคกล่าวว่า โดยรวมแล้ว ความเชื่อมั่นได้รับปัจจัยบวกเล็กน้อยจากชัยชนะที่เด็ดขาดของรัฐบาลพรรคแรงงานในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา

ความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคแรงงานพุ่งขึ้น 4.5% ไปอยู่ที่ระดับ 109.6 ในขณะที่ความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคฝ่ายค้านอย่างพันธมิตรระหว่างพรรคเสรีนิยมและพรรคชาติ (Liberal-National Coalition) กลับลดลง 0.7% มาอยู่ที่ 85.5

ผลสำรวจยังพบอีกว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นเกี่ยวกับสถานะทางการเงินส่วนบุคคล ทำให้ดัชนีในส่วนนี้เพิ่มขึ้น 7.8% ส่วนดัชนีคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจในอีก 12 เดือนข้างหน้า ก็ปรับตัวสูงขึ้น 2.8%

นอกจากนี้ ดัชนีที่วัดมุมมองว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมในการซื้อของใช้ชิ้นใหญ่ในบ้านหรือไม่ ก็ปรับเพิ่มขึ้น 3.5% ทำให้สูงกว่าปีก่อนหน้าเกือบ 22%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ค. 68)

Tags: ,
Back to Top