“กอบศักดิ์” ห่วง 2 เครื่องยนต์แผ่ว “บริโภคเอกชน-ภาคผลิต” ฉุดการเติบโตศก.ไทย

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) และประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว โดยแสดงความเป็นห่วงการบริโภคภาคเอกชน และการผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งทั้ง 2 ตัวนี้ มีผลกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคตได้

โดยระบุว่า จากการแถลงข้อมูล GDP ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ วานนี้ มี 2 ตัวเลขที่น่าจับตามอง ซึ่งจะกดดันเศรษฐกิจไทยไปในช่วงหลายปีข้างหน้า ดังนี้

1. การบริโภคภาคเอกชน ที่ขยายตัวได้เพียง +2.6% ซึ่งน่ากังวลใจ เพราะปกติแล้ว การบริโภคภาคเอกชนจะมีขนาดประมาณ 55% ของเศรษฐกิจ เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทย ซึ่งตัวเลขนี้ควรขยายตัวได้ 5-6% แต่กลับพบว่าช่วง 4 ไตรมาสสุดท้าย ขยายตัวได้เพียงประมาณ 3% กว่าๆ

“จะคึกคักหรือไม่ ก็จะขึ้นกับว่า คนใช้จ่ายหรือไม่ ซึ่งตัวเลขนี้ควรจะขยายตัวได้ 5-6% แต่กลับพบว่าช่วง 4 ไตรมาสสุดท้าย ขยายตัวได้เพียงประมาณ 3% กว่าๆ ส่วนหนึ่งคงเป็นผลจากการที่เศรษฐกิจไทยไม่ค่อยโต และอีกส่วนคงมาจากการที่เราเป็นหนี้กันมาก มีหนี้ครัวเรือนสูงมีหนี้เสียเพิ่มขึ้น” นายกอบศักดิ์ ระบุ

2. การผลิตของภาคอุตสาหกรรม โดยภาคนี้เป็นภาคที่สร้างรายได้หลักของประเทศ ล่าสุดมีสัดส่วนประมาณ 28% ของ GDP ในช่วงที่ขยายตัวดี ภาคนี้จะเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยผลักเศรษฐกิจไทย โดยช่วงปี 2543-2550 ขยายตัวที่ 9.5% ช่วงปี 2553-2561 ขยายตัวที่ 4.1% แต่ 5 ไตรมาสสุดท้าย ขยายตัวเฉลี่ยเพียง 0.5%

“5 ไตรมาสสุดท้าย ขยายตัวเฉลี่ยเพียง 0.5% เครื่องยนต์ดับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าอุตสาหกรรมไทยกำลังตกรุ่น โรงงานกำลังปิด หรือ ลดกำลังการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มยานยนต์ ที่กำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ถ้าเราอยากเห็นเศรษฐกิจไทยคึกคักอีกรอบ

นี่คือโจทย์สำคัญที่เราต้องแก้ให้ได้ แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน และสร้าง หรือผลัดใบภาคอุตสาหกรรมไทย ที่จะมาเป็นรายได้ใหม่ๆ ให้กับประเทศทดแทนการปิดตัวของโรงงานแบบเดิม ๆ” นายกอบศักดิ์ ระบุ

นายกอบศักดิ์ เห็นว่า ถ้าไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ เศรษฐกิจไทยก็ยากจะกลับไปโตอย่างที่เราหวัง ถูกเพื่อนบ้านแซง หรือทิ้งไว้ข้างหลัง

“โชคดีช่วงนี้ คลื่นการลงทุนรอบใหม่ในอาเซียนกำลังมา หลาย ๆ ประเทศกำลังหลั่งไหลเข้ามาลงทุน หลังจากทิ้งเราไปหลังวิกฤตต้มยำกุ้งถ้าหากเราได้ส่วนแบ่งที่พอสมควร 3-5 ปีให้หลัง เราจะมีภาคอุตสาหกรรมใหม่ที่จะออกดอกออกผลอีกครั้ง เป็นเครื่องยนต์ใหม่ให้เศรษฐกิจไทยไปอีก 15-20 ปี” นายกอบศักดิ์ ระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ค. 68)

Tags: , ,
Back to Top