
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย(บอร์ดรฟท.) มีมติเห็นชอบผลการศึกษาโครงการศึกษาและวิเคราะห์โครงการให้เป็นไปตามนัยของกฎหมายว่าด้วยการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ในการสรรหาผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบัง ตามพ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 ซึ่งขั้นตอนจากนี้รฟท.จะสรุปและเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมได้ภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ การศึกษาดังกล่าวเป็นไปตาม มติครม. เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 67 ที่ได้รับทราบผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยให้รฟท.จัดทำรายงานผลการศึกษาและวิเคราะห์โครงการเพื่อให้การดำเนินงานสอดคล้องกับกฎหมายร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ซึ่งรฟท.ได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ใช้ระยะเวลา 3 เดือน พบว่า รูปแบบ PPP Net Cost มีความเหมาะสมและครบถ้วนตามกระบวนการที่ครม.สั่งการ และสอดคล้องกับที่รฟท.ได้ดำเนินการมาโดยคาดว่า สามารถลงนามสัญญากับผู้ที่ได้รับคัดเลือกได้ภายในปี 2568
“เนื่องจากมีการศึกษาอัพเดทตัวเลขต่าง ๆ ใหม่ให้สอดคล้องกับปัจจุบัน ซึ่งจะมีผลทำให้รฟท.ได้รับผลตอบแทนเพิ่มตามไปด้วย โดยจะมีการเจรจากับเอกชนต่อไป”
รายงานข่าวแจ้งว่า สัญญาไอซีดีลาดกระบังเดิมมีผู้ประกอบการ 6 ราย ต่อมาปี 2556 มีการศึกษาปรับเปลี่ยนรูปแบบให้มีผู้ประกอบการน้อยราย แต่กระทรวงการคลังเห็นว่าข้อมูลไม่ครบถ้วนจึงให้จัดทำข้อมูลใหม่ โดยรฟท. เปิดประกวดราคาโครงการสรรหาเอกชนเพื่อร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบัง ช่วงต้นปี 2561 มีผู้ซื้อเอกสารประกวดราคาทั้งสิ้น 10 ราย แต่มีเอกชนยื่นข้อเสนอเพียง 1 ราย คือ กิจการร่วมค้า เอ แอล จี (ประเทศไทย) (บริษัท อีสเทิร์นซี แหลมฉบังเทอร์มินัล จำกัด ,บริษัท เอเวอร์กรีนคอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล (ประเทศไทย) จำกัด ,บริษัท โอเชี่ยนเน็ตเวิร์ค เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ไทย อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด)
รฟท.ได้เสนอผลการประกวดราคา ตามพ.ร.บ.ร่วมลงทุนเอกชน พ.ศ. 2556 ไปยังครม. สัมปทาน 20 ปี โดยครม.เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2562 ยังไม่อนุมัติผลการประมูล แต่มีมติให้กระทรวงคมนาคม โดยรฟท. กลับไปจัดทำรายงานผลการศึกษาและวิเคราะห์โครงการให้เป็นไปตามนัยของกฎหมาย ว่าด้วยการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน รวมทั้งข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องรอบด้าน โดยให้มีการศึกษาข้อมูลตามความเห็นของกระทรวงการคลัง และ สศช. รวมทั้งความเห็นเพิ่มเติมของรมว.คลัง และเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฏีกา ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการก่อนนำเสนอครม.ต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ค. 68)
Tags: การรถไฟแห่งประเทศไทย, วีริศ อัมระปาล, ไอซีดี