
ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 5.5% ในการประชุมวันนี้ (21 พ.ค.) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2565 และเป็นการปรับลดดอกเบี้ยครั้งที่สองในปีนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าที่เกิดขึ้นทั่วโลก และสกุลเงินรูเปียห์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
การตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ มีขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากทางการอินโดนีเซียรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่สกุลเงินรูเปียห์แข็งค่าขึ้นในเดือนที่แล้ว เช่นเดียวกับสกุลเงินอื่น ๆ ของประเทศในเอเชีย
เพอร์รี วาร์จิโย ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียจำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นให้แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง และอัตราดอกเบี้ยจำเป็นต้องปรับลดลงเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
การแสดงความเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซียได้ปรับลดประมาณการการขยายตัวของ GDP ในปีนี้ลงสู่กรอบ 4.6% – 5.4%
ทั้งนี้ การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากสินค้านำเข้าของอินโดนีเซียในอัตรา 32% นั้นยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเดิมทีก็เผชิญกับปัญหาการอุปโภคบริโภคภายในประเทศและรายได้ของรัฐบาลอยู่แล้ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ค. 68)
Tags: ดอกเบี้ยนโยบาย, ธนาคารกลางอินโดนีเซีย, ลดดอกเบี้ย, อินโดนีเซีย, เศรษฐกิจอินโดนีเซีย