
นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่นและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เห็นพ้องกันในวันนี้ (23 พ.ค.) ที่จะพิจารณาจัดการประชุมสุดยอดแบบพบหน้ากันในเดือนมิถุนายน นอกรอบการประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (G7) ที่แคนาดา พร้อมแสดงความหวังว่า การเจรจาประเด็นภาษีระดับรัฐมนตรีที่จะมีขึ้นก่อนหน้านั้น จะเกิดผลเป็นรูปธรรม
ผู้นำทั้งสองประเทศได้สนทนาทางโทรศัพท์ราว 45 นาที โดยเห็นพ้องถึงความจำเป็นในการสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีที่เป็นประโยชน์ร่วมกันผ่านการเจรจาเรื่องภาษี แม้ยังไม่มีการหารือเชิงลึกในรายละเอียด
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การหารือครั้งนี้มีขึ้นตามคำร้องขอจากฝั่งสหรัฐฯ ก่อนหน้าการเจรจาภาษีระดับรัฐมนตรีที่จะจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตันในวันนี้ โดยเรียวเซ อากาซาวะ หัวหน้าคณะผู้เจรจาของญี่ปุ่น ได้ออกเดินทางจากกรุงโตเกียวในช่วงเช้าวันนี้
อิชิบะกล่าวว่า ผมได้บอกว่าหวังที่จะเห็นการเจรจาในระดับรัฐมนตรีเกิดผลดี และทรัมป์เองก็เห็นด้วย พร้อมระบุเสริมว่า เรายังเห็นพ้องในความจำเป็นที่จะกระชับความร่วมมือทวิภาคีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมถึงในด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
แม้การพบกันนอกรอบระหว่างการประชุม G7 ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองคานานาสคิส ประเทศแคนาดาระหว่างวันที่ 15–17 มิ.ย. จะเป็นทางเลือกหนึ่ง แต่อิชิบะกล่าวว่า ยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะเดินทางไปยังสหรัฐฯ เพื่อพบกับทรัมป์โดยตรง ขึ้นอยู่กับทิศทางของสถานการณ์
ญี่ปุ่นยังคงยืนยันจุดยืนในการเรียกร้องให้สหรัฐฯ ทบทวนนโยบายการจัดเก็บภาษี โดยเฉพาะภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตรา 25% ซึ่งสร้างความกังวลต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่พึ่งพาการส่งออกอย่างมาก
“จุดยืนของเราไม่เปลี่ยน เรายังคงเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการภาษีเหล่านี้” อิชิบะกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ค. 68)
Tags: กลุ่มประเทศ G7, ความสัมพันธ์ทวิภาคี, ชิเงรุ อิชิบะ, ญี่ปุ่น, ภาษี, สหรัฐ, โดนัลด์ ทรัมป์