
ศาลฎีกาสหรัฐฯ ได้มีคำตัดสินเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (22 พ.ค.) ในคดีเกี่ยวกับการปลดกรรมการในคณะกรรมการแรงงานของรัฐบาลกลาง 2 คนโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งส่วนหนึ่งของคำตัดสินดังกล่าวได้ช่วยลดความกังวลในขณะนี้ว่า คดีนี้อาจเปิดช่องให้ทรัมป์สามารถสั่งปลดเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกจากตำแหน่งได้ตามอำเภอใจ
ในคดีดังกล่าว ทนายความของกวินน์ วิลค็อกซ์ ซึ่งถูกปลดออกจากคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์แห่งชาติ (NLRB) และเคธี แฮร์ริส ซึ่งถูกปลดออกจากคณะกรรมการคุ้มครองระบบคุณธรรม (MSPB) ได้โต้แย้งว่า หากศาลตัดสินเข้าข้างรัฐบาลทรัมป์ในคดีปลดพวกตน ก็อาจกระทบต่อหลักประกันทางกฎหมายของผู้บริหารระดับสูงของเฟด ซึ่งแต่เดิมถือว่ามีเกราะคุ้มกันจากการถูกประธานาธิบดีสั่งปลด เว้นแต่จะทำผิดร้ายแรงหรือประพฤติมิชอบ
อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาเสียงข้างมากระบุในคำตัดสินสั้น ๆ ว่า “เราไม่เห็นพ้องด้วย ธนาคารกลางสหรัฐฯ เป็นองค์กรกึ่งเอกชนที่มีโครงสร้างเป็นเอกลักษณ์ และมีรากฐานทางประวัติศาสตร์ที่แตกต่างจากธนาคารกลางแห่งแรกและแห่งที่สองของสหรัฐฯ”
คำชี้แจงนี้ของศาลฎีกาถือเป็นประเด็นสำคัญ เนื่องจากคดีการปลดกรรมการบอร์ดแรงงานทั้งสองกรณีนี้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในฐานะเครื่องบ่งชี้ว่า ทรัมป์มีอำนาจในการปลดเจ้าหน้าที่เฟดหรือไม่
ทั้งนี้ รัฐบัญญัติธนาคารกลางสหรัฐฯ ปี 2456 (Federal Reserve Act of 1913) ซึ่งเป็นกฎหมายจัดตั้งเฟดที่ยังคงใช้มาจนถึงปัจจุบัน กำหนดไว้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดจะถูกปลดได้ก็ต่อเมื่อ “มีเหตุอันสมควร” (for cause) เท่านั้น ไม่ใช่จากความขัดแย้งทางการเมืองหรือความเห็นต่างด้านนโยบาย
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์เคยวิพากษ์วิจารณ์พาวเวลอยู่บ่อยครั้ง ทั้งที่ตัวเขาเองเป็นผู้เสนอชื่อพาวเวลให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดในสมัยรัฐบาลทรัมป์หนึ่ง ก่อนที่พาวเวลจะได้รับเสนอชื่ออีกครั้งในวาระที่สองโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต
ทรัมป์เคยกล่าวว่าต้องการให้พาวเวลพ้นจากตำแหน่ง และแม้ว่าล่าสุดทรัมป์ ซึ่งเคยโจมตีพาวเวลเรื่องที่เฟดไม่ยอมลดอัตราดอกเบี้ย จะออกมาบอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะปลดพาวเวล แต่ความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ก็สร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาดการเงิน ซึ่งเชื่อมั่นในความเป็นอิสระของเฟดในการดำเนินนโยบายโดยปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง
ด้านพาวเวลเองก็เคยกล่าวว่า เขาเชื่อว่ากฎหมายไม่อนุญาตให้ทรัมป์ปลดเขาออกจากตำแหน่งได้
สำหรับคำสั่งศาลในคดีหลักที่เกี่ยวข้องกับกรรมการบอร์ดแรงงานนั้น ศาลยังคงให้กรรมการทั้งสองคนพ้นจากตำแหน่งต่อไป ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ว่าการถูกปลดนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งนี้ คณะกรรมการของเฟดมีทั้งหมด 7 คน รวมถึงตำแหน่งประธานเฟด ซึ่งทั้งหมดมาจากการแต่งตั้งของประธานาธิบดีและต้องผ่านการรับรองจากวุฒิสภา วาระของพาวเวลจะสิ้นสุดในเดือนพ.ค. ปี 2569 และคาดว่าทรัมป์จะเสนอชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งต่อจากพาวเวลในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ค. 68)
Tags: สหรัฐ, เจอโรม พาวเวล, เฟด, โดนัลด์ ทรัมป์