
ผลสำรวจของสมาพันธ์ธุรกิจสิงคโปร์ซึ่งมีการเผยแพร่ในวันนี้ (28 พ.ค.) ระบุว่า มุมมองของภาคธุรกิจสิงคโปร์ที่มีต่อเศรษฐกิจในไตรมาส 1/2568 อ่อนแอลงอย่างมากจากไตรมาส 4/2567 ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเกิดขึ้นในขณะนี้
ผลสำรวจระบุว่า สัดส่วนของธุรกิจที่คาดการณ์ว่าภาวะเศรษฐกิจจะย่ำแย่ลงในอีก 12 เดือนข้างหน้านั้น เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 22% ในไตรมาส 4/2567 มาอยู่ที่ระดับ 40% ในไตรมาส 1 ปีนี้
ในบรรดาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) สัดส่วนของบริษัทที่คาดว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงนั้น เพิ่มขึ้นจาก 23% เป็น 41% ส่วนบริษัทขนาดใหญ่ได้แสดงมุมมองที่คล้ายกัน โดยตัวเลขเพิ่มขึ้นจาก 18% เป็น 38%
เมื่อพิจารณาเป็นรายภาคส่วนพบว่า ธุรกิจโรงแรม ภัตตาคารและที่พัก บริการด้านสุขภาพและสังคม ตลอดจนธุรกิจค้าปลีก มีมุมมองที่เป็นลบมากเป็นพิเศษต่อภาวะเศรษฐกิจในปีหน้า
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผลการสำรวจนี้อ้างอิงจากการสำรวจที่ดำเนินการระหว่างวันที่ 27 มี.ค. – 21 เม.ย. โดยมีบริษัทที่ตอบรับการสำรวจจำนวน 526 แห่งทั่วทุกภาคส่วนหลัก ขณะที่ธุรกิจ SME คิดเป็นสัดส่วน 83% ของธุรกิจที่เข้าร่วมการสำรวจ
ก๊ก ปิง ซุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสมาพันธ์ธุรกิจสิงคโปร์ กล่าวว่า “มุมมองที่อ่อนแอลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่มีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นซึ่งธุรกิจต้องเผชิญ” พร้อมกับกล่าวเพิ่มเติมว่าบริษัทต่าง ๆ อาจต้องการวงเงินสินเชื่อจำนวนมากขึ้นและเงื่อนไขการให้สินเชื่อที่นานขึ้น เพื่อจัดการกับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ค. 68)
Tags: สิงคโปร์, เศรษฐกิจสิงคโปร์