
กิจกรรมการผลิตในหลายประเทศเอเชียชะลอตัวในเดือนพ.ค. 2568 ท่ามกลางผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า ส่งผลให้ความต้องการสินค้าทั้งภายในและระหว่างประเทศลดลงอย่างชัดเจน
ข้อมูลจากเอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) ระบุว่า เวียดนามเผชิญกับคำสั่งส่งออกใหม่ที่ลดลงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบปรับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี
แนวโน้มชะลอตัวไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเวียดนาม เพราะในไต้หวัน ยอดผลิตและคำสั่งส่งออกใหม่ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง ส่วนอินโดนีเซียมีคำสั่งซื้อใหม่ร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2564 และในเกาหลีใต้ การผลิตหดตัวมากที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี
ตัวเลขล่าสุดนี้สะท้อนความเปราะบางของเศรษฐกิจเอเชียที่ต้องพึ่งพาการค้าโลกอย่างสูง โดยเฉพาะในช่วงที่นโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ มีลักษณะไม่แน่นอนและผันผวน ล่าสุด ทรัมป์ขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมเป็น 2 เท่า และกล่าวหาจีนว่าผิดข้อตกลงด้านภาษี ขณะที่จีนตอบโต้ทันทีโดยปฏิเสธข้อกล่าวหาและประณามว่าสหรัฐฯ ใช้มาตรการเลือกปฏิบัติชุดใหม่
เวียดนาม อินโดนีเซีย ไต้หวัน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ล้วนรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิต ขณะที่ฟิลิปปินส์แม้ยังเติบโต แต่ก็เริ่มชะลอลง
ในรายงานของไต้หวันนั้น เอสแอนด์พี โกลบอลชี้ว่า ความลังเลของลูกค้าและอุปสงค์ที่อ่อนแอจากผลกระทบของภาษีศุลกากรสหรัฐฯ กดดันให้ยอดขายลดลง หลายธุรกิจจึงปรับลดการจ้างงานและการสั่งซื้อวัตถุดิบลงตามไปด้วย
อี ชางยง ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ ชี้ว่า ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะผ่านห่วงโซ่อุปทานกับจีน ทำให้ผลกระทบจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ มีอิทธิพลต่อทั้งภูมิภาคแม้จะเป็นผลกระทบโดยอ้อม เขาเน้นย้ำว่าผลลัพธ์ของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางเศรษฐกิจเอเชียในระยะต่อไป
ขณะเดียวกัน สถานะภาษีของทรัมป์ยังไม่แน่นอน หลังศาลการค้าสหรัฐฯ พิพากษาคัดค้าน แต่รัฐบาลสามารถอุทธรณ์สำเร็จ หากบังคับใช้ได้จริง ภาษีเหล่านี้อาจเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบร้อยปีภายในเดือนหน้า
ข้อมูลในเดือนพ.ค. ยังชี้ให้เห็นว่า แนวโน้มชะลอตัวตามมาหลังจากที่การส่งออกและขนส่งสินค้าเร่งตัวในเดือนเม.ย. เนื่องจากบริษัทในสหรัฐฯ พยายามเร่งจัดส่งสินค้าก่อนสิ้นสุดช่วงระงับการขึ้นภาษี 90 วันที่ทรัมป์ประกาศไว้ โดยเกาหลีใต้รายงานว่า ยอดส่งออกไปยังสหรัฐฯ ลดลงถึง 8.1% ในเดือนพ.ค.
อย่างไรก็ตาม ยังมีสัญญาณบวกในบางพื้นที่ เช่น ในเวียดนาม ผู้ผลิตเสื้อผ้า รองเท้า และชิ้นส่วนสมาร์ตโฟนหลายรายเริ่มเห็นการฟื้นตัวของการผลิต และแสดงความเชื่อมั่นมากขึ้น เนื่องจากเสถียรภาพของนโยบายภาษีที่เริ่มมีทิศทางชัดเจนขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากความคืบหน้าของการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับจีนและสหราชอาณาจักร
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 มิ.ย. 68)
Tags: การส่งออกไทย, ภาษีนำเข้า, สงครามการค้า, สหรัฐ, เศรษฐกิจเอเชีย