
น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ. กำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคล ซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. แก้ไขหลักเกณฑ์การได้รับประโยชน์ทดแทนของผู้ประกันตนทางเลือกที่ 1-3 กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย เป็นเงินทดแทนการขาดรายได้ โดยลดระยะเวลาให้น้อยลงตั้งแต่ 1 วันขึ้นไป ปรับเพิ่มอัตราได้รับประโยชน์ทดแทนของผู้ประกันตนทางเลือกที่ 1-2 หากไม่ได้พักรักษาพยาบาลในสถานพยาบาล โดยมีใบรับรองแพทย์มาแสดงต่อ สนง.ประกันสังคม (จาก 50 บาท เป็น 200 บาท) และปรับเพิ่มอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทนของผู้ประกันตนทางเลือกที่ 3 หากไม่ได้พักรักษาพยาบาลในสถานพยาบาล โดยมีใบรับรองแพทย์มาแสดงต่อ สนง.ประกันสังคม (จากไม่ได้กำหนดไว้เป็นครั้งละ 200 บาท)
2. กำหนดให้ผู้ประกันตนทางเลือกที่ 1-3 ที่เจ็บป่วยด้วยโรคติดต่ออันตราย รวมถึงโควิด-19 และเข้ารับการรักษาฯ มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน (จากไม่ได้กำหนดไว้เป็น 200 บาท/วัน)
3. แก้ไขหลักเกณฑ์การได้รับประโยชน์ทดแทนของผู้ประกันตนทางเลือกที่ 1-2 กรณีทุพพลภาพ เป็นเงินทดแทนการขาดรายได้ต่อเดือนตลอดชีวิต (เดิม 15 ปี) และปรับเพิ่มอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทนในแต่ละเดือนเป็น 1,000-2,000 บาท/เดือน และปรับเพิ่มอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทนในแต่ละเดือนของผู้ประกันตนทางเลือกที่ 3 เป็น 1,500-3,000 บาท/เดือน
4. แก้ไขระยะเวลา และอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทน ของผู้ประกันตนทางเลือกที่ 3 กรณีสงเคราะห์บุตร ได้รับเงินสงเคราะห์บัตรสำหรับบุตรซึ่งมีอายุไม่เกิน 7 ปีบริบูรณ์ ในอัตรา 300 บาท/เดือน ต่อบุตร 1 คน
5. แก้ไขหลักเกณฑ์การจ่ายประโยชน์ทดแทน กรณีผู้ประกันตนทางเลือกที่ 2-3 ถึงแก่ความตายก่อนอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ หรือก่อนที่จะได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ โดยให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพให้แก่บุคคลซึ่งผู้ประกันตนทำหนังสือระบุ
6. กำหนดบทเฉพาะกาล เช่น
– ป่วยด้วยโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.63 – 30 ก.ย.65 มีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ตามกฎหมายใหม่
– กำหนดให้ผู้ประกันตน ทางเลือก 1-3 ที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอยู่ก่อนวันร่าง พ.ร.ฎ.ใช้บังคับไปจนถึงวันที่ พ.ร.ฎ.นี้ใช้บังคับ มีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ตามกฎหมายใหม่
– กำหนดให้ผู้ประกันตนทางเลือก 1-3 ที่ได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีทุพพลภาพ เป็นเงินทดแทนการขาดรายได้ตามกฎหมายเดิม ซึ่งสิ้นสุดการได้รับสิทธิไปแล้ว
– กำหนดให้ผู้ประกันตนทางเลือกที่ 3 ได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตรตามกฎหมายเดิม มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตรเพิ่มขึ้นตามกฎหมายใหม่
ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคม เปิดโอกาสสร้างหลักประกันในชีวิตให้ผู้ประกอบอาชีพอิสระ พ่อค้าแม่ค้า แม่บ้าน รับจ้างทั่วไป ฟรีแลนซ์ สามารถเข้าสู่ระบบประกันสังคมได้ ในมาตรา 40 คือ บุคคลทั่วไปที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ และไม่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 39 ไม่เป็นข้าราชการ หรือบุคคลที่ถูกยกเว้นตามกฎหมายประกันสังคม
โดยแบ่งออกเป็น 3 ทางเลือก
– ทางเลือกที่ 1 ผู้ประกันตนจ่าย 70 บาท/เดือน รับสิทธิประโยชน์ 3 กรณี ได้แก่ ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย, ทุพพลภาพ, ตาย
– ทางเลือกที่ 2 ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท/เดือน รับสิทธิประโยชน์ 4 กรณี ได้แก่ ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย, ทุพพลภาพ, ตาย ชราภาพ (รับบำเหน็จ)
– ทางเลือกที่ 3 (ทางเลือกใหม่) ผู้ประกันตนจ่าย 300 บาท/เดือน รับสิทธิประโยชน์ 5 กรณี ได้แก่ ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย, ทุพพลภาพ, ตาย, ชราภาพ (รับบำเหน็จ) และสงเคราะห์บุตร
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มิ.ย. 68)
Tags: ประชุมครม., ผู้ประกันตน, มติคณะรัฐมนตรี, ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์, สำนักงานประกันสังคม