
เคาน์เตอร์พอยต์ รีเสิร์ช (Counterpoint Research) บริษัทวิจัยตลาดชื่อดัง ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของยอดการจัดส่งสมาร์ตโฟนทั่วโลกสำหรับปี 2568 ลงเหลือเพียง 1.9% จากเดิมที่เคยประเมินไว้ที่ 4.2% การปรับลดครั้งนี้มีขึ้นในวันนี้ (4 มิ.ย.) โดยให้เหตุผลหลักมาจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ภาษีในสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้ประกาศมาตรการภาษีหลายรายการ ส่งผลให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิ้ล (Apple) ต้องเร่งปรับแผนซัพพลายเชน อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ ได้มีคำสั่งพักการเก็บภาษีดังกล่าวสำหรับสมาร์ตโฟนและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เป็นการชั่วคราว 90 วัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการระงับภาษีในภาพรวม
การปรับลดตัวเลขคาดการณ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายระลอกใหม่ที่ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนต้องเผชิญ นอกเหนือจากยอดขายที่ชะลอตัวอยู่แล้ว ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นและสงครามการค้าที่ยังคงคุกรุ่น
นอกจากนี้ เคาน์เตอร์พอยต์ยังได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของยอดการจัดส่งจากจีนเมื่อเทียบปีต่อปี เหลือใกล้เคียงระดับทรงตัว ขณะที่ยอดการจัดส่งของแอปเปิ้ลและซัมซุง (Samsung) มีแนวโน้มชะลอตัวลงเช่นกัน เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้นอาจถูกผลักภาระไปยังผู้บริโภคในท้ายที่สุด
ปัจจุบัน แอปเปิ้ลมียอดขาย iPhone ทั่วโลกมากกว่า 220 ล้านเครื่องต่อปี โดยประมาณ 1 ใน 5 ของ iPhone ที่นำเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ มาจากอินเดีย ส่วนที่เหลือยังคงมาจากจีนเป็นหลัก
เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา อินเตอร์เนชันแนล ดาต้า คอร์ป (IDC) อีกหนึ่งบริษัทวิจัยชั้นนำ ก็เพิ่งปรับลดคาดการณ์ยอดการจัดส่งสมาร์ตโฟนโลกปี 2568 ลงเหลือเพียง 0.6% จากเดิม 2.3% โดยชี้ไปที่ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากประเด็นภาษี และการที่ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มิ.ย. 68)
Tags: Counterpoint Research, สมาร์ตโฟน