ก.ล.ต. เฮียริ่งปรับเกณฑ์ขนาดรายการสำคัญต้องขออนุมัติผถห.ลดเหลือ 25% ของมูลค่าสินทรัพย์

นายไพบูลย์ ดำรงวารี ผู้ช่วยเลขาธิการ สายระดมทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. เตรียมเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อการปรับปรุงหลักเกณฑ์การทำรายการที่มีนัยสำคัญ (Material Transaction :MT) โดยลดขนาดรายการที่มีนัยสำคัญที่ต้องขออนุมัติผู้ถือหุ้นเป็น 25% ของมูลค่าสินทรัพย์รวมของบริษัท โดยจะเปิดรับฟังความคิดเห็นในไตรมาส 3/68 คาดเห็นความชัดเจนเกณฑ์ดังกล่าวภายในปีนี้ และจะให้ระยะเวลาบริษัทจดทะเบียนเตรียมความพร้อมกับเกณฑ์ใหม่อย่างน้อย 6 เดือน

โดย ก.ล.ต. มีแนวคิดในการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและเทียบเคียงหลักการสากล โดยปัจจุบันขนาดรายการที่มีนัยสำคัญต้องขออนุมัติผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 50% นับเป็นยอดสะสม 6 เดือน ยกตัวอย่างเช่น บริษัทจดทะเบียนทำธุรกรรมลงทุนโครงการแรก ขนาดรายการ 10% ต่อมาภายใน 6 เดือน ลงทุนโครงการที่สอง ขนาด 45% ยอดสะสมรวมเกินกว่า 50% ธุรกรรมที่สองต้องขออนุมัติผู้ถือหุ้น

ทั้งนี้เกณฑ์ใหม่ที่ลดขนาดรายการลงเหลือ 25% และนับเป็นรายโครงการ เพื่อให้เข้มงวดในการรายงานมากขึ้น โดยไม่จำกัดระยะเวลา และนับเป็นแต่ละรายการธุรกรรมไป ไม่รวมเป็นยอดสะสม โดยต้องไม่มีเจตนาเลี่ยง โดยการพิจารณานั้นต้องดูว่าโครงการนั้น ๆ แยกกันขาดได้จริงหรือไม่ นอกจากนี้ธุรกรรมที่มีขนาดรายการ 25% ไม่จำเป็นต้องว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) อย่างไรก็ตามหากธุรกรรมมีขนาด 50% ต้องมีการว่าจ้าง IFA เช่นเดิม

“สมมติว่าทำโครงการขนาดใหญ่ ขนาดธุรกรรมมากกว่า 25% แต่แบ่งโครงการเป็นโครงการ A1และโครงการ A2 หากพิจารณาว่าโครงการดังกล่าวเป็นโครงการเดียวกันที่ต้องทำพร้อมกันให้เสร็จถึงจะสามารถดำเนินโครงการได้ ถือว่ามีเจตนาแยกธุรกรรม แต่บางกรณีเช่นอสังหาริมทรัพย์ หากเป็นโครงการที่แยกกันได้ เช่น โครงการเฟส 1 อาจจบโครงการก่อน แต่เฟส 2 ยังไม่เริ่ม กรณีดังกล่าวแยกได้ไม่มีประเด็น”

การปรับเกณฑ์ MT อาจไม่ได้ส่งผลต่อมูลค่าหุ้นของบริษัทจดทะเบียนนั้น ๆ โดยตรง แต่เกณฑ์ดังกล่าวจะเข้าไปดูแล ให้บริษัทจดทะเบียนมีความระมัดระวังในการเข้าลงทุน ไม่ตัดสินใจลงทุนทันที แต่ต้องขออนุมัติจากผู้ถือหุ้น ซึ่งจะสะท้อนว่าโครงการธุรกรรมนั้นๆ น่าลงทุนหรือไม่ และช่วยคุ้มครองผู้ลงทุนให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มิ.ย. 68)

Tags: , , ,
Back to Top