สหรัฐฯ สั่งอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตในอิรัก กังวลความปลอดภัยตะวันออกกลาง

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้สั่งอพยพเจ้าหน้าที่บางส่วนออกจากสถานทูตในอิรัก เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง

แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศในวันพุธ (11 มิ.ย.) ระบุว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ประจำอิรัก ซึ่งไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน รวมทั้งครอบครัวของเจ้าหน้าที่เหล่านี้ ได้รับคำสั่งให้อพยพจากจากอิรัก เนื่องจากความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดอย่างเฉพาะเจาะจง

“จากการวิเคราะห์สถานการณ์ล่าสุดของเรา เราได้ตัดสินใจลดจำนวนเจ้าหน้าที่ของเราที่ปฏิบัติภารกิจในอิรัก” กระทรวงการต่างประเทศระบุในแถลงการณ์ และเสริมว่า “เรายังคงประเมินความเหมาะสมในการจัดสรรบุคลากรในสถานทูตของเราทุกแห่ง”

ทางด้านพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ได้อนุมัติให้ครอบครัวของทหารสหรัฐฯ เดินทางออกจากตะวันออกกลางโดยสมัครใจในวันพุธเช่นกัน

แม้ว่าความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่นำไปสู่การออกคำสั่งให้อพยพเจ้าหน้าที่บางส่วนออกจากอิรักยังไม่เป็นที่ชัดเจนในขณะนี้ แต่สื่อรายงานว่า อิหร่านเพิ่งขู่ว่าจะโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง หากการเจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านล้มเหลว

ทั้งนี้ อาซิซ นาซีร์ซาเดห์ รัฐมนตรีกลาโหมอิหร่าน กล่าวเตือนในวันพุธว่า อิหร่านพร้อมโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง หากการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ครั้งใหม่กับสหรัฐฯ ล้มเหลว และนำไปสู่เหตุปะทะทางทหาร

ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ในรายการพอดแคสต์ “Pod Force One” เมื่อวันพุธว่า เขามีความมั่นใจน้อยลงในการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน และต่อมาในวันเดียวกัน เมื่อถูกถามว่าเหตุใดครอบครัวของบุคลากรทหารของสหรัฐฯ จึงได้รับอนุญาตให้เดินทางออกจากตะวันออกกลาง ปธน.ทรัมป์กล่าวเพียงว่า “คุณต้องรอดูต่อไป”

ทั้งนี้ คาดว่าสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนของรัฐบาลทรัมป์ในตะวันออกกลาง จะพบกับอับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อเจรจานิวเคลียร์รอบที่หก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 มิ.ย. 68)

Tags: , , , , ,
Back to Top