
นางสาวนลิน วิริยะเสถียร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.เพ็ทพัล โปรดักส์ [PETPAL] เปิดเผยว่า PETPAL ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 52,769,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 35% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
วัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้ขยายกำลังการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ขยายโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนการผลิต และการพัฒนา
ผลิตภัณฑ์ใหม่ผ่านการวิจัยและพัฒนา (R&D), เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ
นายวสกร โมรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด PETPAL เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจรับจ้างผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชนิดแห้งแบบเม็ด (Dry Pet Food) ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า (Original Design Manufacturer: ODM) พร้อมบริการแบบครบวงจร (One-stop Service) โดยครอบคลุมการให้คำปรึกษา การคิดค้นและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ การผลิต จัดเตรียมเอกสาร และจัดส่งสินค้า นอกจากนี้ ได้มุ่งเน้นการให้บริการที่มีความยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า ทั้งที่เป็นเจ้าของแบรนด์ระดับสากลและลูกค้ารายใหม่ที่ต้องการสร้างแบรนด์สินค้าของตนเอง
บริษัทฯ มีผู้บริหารที่มีองค์ความรู้และประสบการณ์ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงมานานกว่า 10 ปี และมีทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอาหารสัตว์เลี้ยงทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การคิดค้นและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ด้วยสูตรเฉพาะของบริษัทฯ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย การคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัย การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในกระบวนการผลิตและมีการตรวจสอบควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน
โรงงานของบริษัทฯ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดสระบุรี ได้รับการรับรองมาตรฐานทั้งระดับประเทศและระดับสากล อาทิ มาตรฐานการผลิตที่ดี (GMP), มาตรฐานระบบการจัดการและควบคุมความปลอดภัยของอาหาร (GHP/HACCP – Food Safe) มาตราฐาน ISO22000, ISO9001:2015 ฯลฯ และมาตรฐานเฉพาะอื่น ๆ เช่น มาตรฐาน HALAL ที่รับรองผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ว่าเป็นไปตามหลักของศาสนาอิสลาม, มาตรฐาน SUCI PURE ด้านความสะอาดและปลอดภัย เป็นต้น
ณ วันที่ 31 มี.ค.68 โรงงานมีกำลังการผลิต 36,000 ตันต่อปี และมีอัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate) ที่ 70% ซึ่งการเพิ่มกำลังการผลิตผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพของสายการผลิตหรือการขยายโรงงาน จะช่วยส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดทั่วโลกให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังผลิตและจำหน่ายอาหารแมวและสุนัขชนิดเม็ดแบบแห้งภายใต้แบรนด์ของตนเอง (House Brand) เพื่อเพิ่มโอกาสขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ และเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะเพิ่มมูลค่าธุรกิจในระยะยาว รวมถึงเพิ่มยืดหยุ่นในการปรับตัวให้สอดคล้องกับตลาดที่มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยมีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมตลาดทุกระดับ ได้แก่
(1) กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยม (Premium Grade) สำหรับลูกค้าที่ต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงที่ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ได้แก่ อาหารแมวและสุนัข แบรนด์ Boom Gold และอาหารแมวแบรนด์ Animeals
(2) กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับมาตรฐาน (Standard Grade) สำหรับลูกค้าที่ต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพในราคาย่อมเยา ได้แก่ อาหารแมวและสุนัขแบรนด์ Boom และอาหารสุนัขแบรนด์ MYPETS
(3) กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับประหยัด (Economy Grade) โดยยังคงคุณค่าทางโภชนาการขั้นพื้นฐานสำหรับสัตว์เลี้ยง ได้แก่ อาหารแมวและสุนัขแบรนด์ Smillie
บริษัทมีโครงการในอนาคตที่จะลงทุนและขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการรักษาคุณภาพมาตรฐานของการผลิตและให้บริการ ตามแผนธุรกิจของบริษัทฯ ในการก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงระดับภูมิภาค โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการและโครงการที่จะเริ่มดำเนินการในช่วงระหว่างปี 69 ถึงปี 70 ได้แก่
– บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาและดำเนินการปรังปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร เพื่อเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate) ให้ใกล้เคียงกับกำลังการผลิตสูงสุดในปัจจุบัน จาก 26,400 ตันต่อปีเป็น 36,000 ตันต่อปีแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 67 โดยการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรในกระบวนการผลิตขั้นตอนสุดท้ายในส่วนการบรรจุลงบรรจุภัณฑ์เพื่อรองรับปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น และเพื่อให้กระบวนการผลิตในภาพรวมสามารถเดินเครื่องได้อย่างต่อเนื่องและเต็มประสิทธิภาพ จะแล้วเสร็จภายในปี 68
– ขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบแห้ง และขยายโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา บริษัทมีแผนจะลงทุนขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบแห้งในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงงานแห่งแรกที่จังหวัดสระบุรี ในช่วงระหว่างปี 69 ถึงปี 70 ตั้งเป้าจะเพิ่มกำลังการผลิตสูงสุดอีกประมาณ 24,000 ตันต่อปี อาจแบ่งการลงทุนเป็น 2 เฟส โดยจะยื่นขอสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามบัตรส่งเสริมการลงทุน (BOI)
– โครงการพัฒนาสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงแบบ Freeze Dried (New Product) ในพื้นที่โรงงานแห่งแรกที่จังหวัดสระบุรี เพื่อเป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทฯ (House Brand) และเป็นผลิตภัณฑ์รับจ้างผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าของลูกค้า (ODM) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 69
ปัจจุบัน PETPAL มีทุนจดทะเบียน 75,384,500 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 150,769,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วมีจำนวน 49,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 98,000,000 หุ้น ภายหลัง IPO จะมีทุนชำระแล้วตามจำนวน
โครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 มี.ค.68 มีนายวสกร โมรากุล ถือหุ้นในสัดส่วน 50% หลังเสนอขาย IPO จะลดลงเหลือ 32.50% นายวัฒนา โมรากุล ถือหุ้น 40% หลัง IPO จะลดเหลือ 26% นางสาวณิชชา พลสุวัตถิ์ ถือหุ้น 10% จะลดเหลือ 6.50%
ผลประกอบการช่วงที่ผ่านมาปี 65-67 บริษัทมีรายได้จากการขาย 601.46 ล้านบาท 574.17 ล้านบาท และ 682.72 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิ 41.40 ล้านบาท 26.29 ล้านบาท และ 66.20 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่งวดไตรมาสแรกของปี 68 มีรายได้ 181.81 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 27.20 ล้านบาท จากงวดไตรมาสแรกของปี 67 มีรายได้ 168.23 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 19.19 ล้านบาท
บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 20% ของกำไรสุทธิของงบการเงินรวม หลังหักภาษีเงินได้ และทุนสำรองตามกฎหมายและเงินสำรองอื่น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มิ.ย. 68)