
ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าบวกในวันนี้ (16 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนประเมินสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการของจีน
- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 38,193.39 จุด เพิ่มขึ้น 359.14 จุด หรือ +0.95%
- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 23,864.20 จุด ลดลง 28.36 จุด หรือ -0.12% และ
- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,378.78 จุด เพิ่มขึ้น 1.78 จุด หรือ +0.05%
- ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้น 0.83% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียทรงตัว
ทางการจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการในวันนี้ โดยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 6.4% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าในเดือนเม.ย.ที่เพิ่มขึ้น 5.1% และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 5% ส่วนในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค. ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้น 5% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าในช่วง 4 เดือนแรกที่เพิ่มขึ้น 4.7%
การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ขยายตัว 5.8% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนเม.ย.ที่ขยายตัว 6.1% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 5.9% ส่วนในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนปรับตัวขึ้น 6.3% เมื่อเทียบรายปี
การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีนช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัว 3.7% เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวลงจากช่วง 4 เดือนแรกที่มีการขยายตัว 4% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 3.9%
ส่วนราคาบ้านใหม่ใน 70 เมืองของจีน ไม่รวมที่อยู่อาศัยที่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาล ลดลง 0.22% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 7 เดือน
นักลงทุนจับตาสถานการณ์ตะวันออกกลาง ขณะที่การสู้รบทางอากาศระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านได้ล่วงเข้าสู่วันที่ 4 แล้วในวันนี้ (16 มิ.ย.) โดยยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าความขัดแย้งของทั้งสองประเทศจะคลี่คลายลง ซึ่งส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่าสงครามในภูมิภาคตะวันออกกลางซึ่งอุดมไปด้วยน้ำมันจะขยายวงกว้างขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มิ.ย. 68)