“เสี่ยหนู” มั่นใจยังเหนียว! ไม่หลุดเก้าอี้ มท.1 หลังคุยนายกฯ ไม่มีเรื่องปรับครม.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวภายหลังเข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที ว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกันเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งน่าจะเป็นสัญญาณว่าจะได้ทำหน้าที่ รมว.มหาดไทย ต่อไป ซึ่งตนไม่เคยแสดงความกังวลในเรื่องนี้ ซึ่งจากการประเมินท่าทีในการสนทนา ตอนแรกก็คิดว่านายกฯ จะพูดเรื่องนี้ด้วย แต่ก็ไม่ได้พูด

“ท่านเรียกผมไป ผมก็ไปพรีเซ้นท์งาน ถ้าท่านจะถามอะไรมา ผมก็ต้องตอบทุกเรื่อง แต่ท่านไม่ได้พูดเรื่องนี้” นายอนุทิน กล่าว

ส่วนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาพูดว่าจะขอดึงกระทรวงมหาดไทยกลับไปให้พรรคเพื่อไทยดูแลนั้น นายอนุทิน ระบุว่า นายทักษิณ ได้ออกตัวแล้วว่าเป็นการพูดในฐานะส่วนตัว และในฐานะนักวิเคราะห์ แต่คนที่รับผิดชอบรัฐบาล คือ นายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ นายอนุทิน ยอมรับว่า ขณะขึ้นไปพบนายกรัฐมนตรีบนตึกไทยคู่ฟ้า ในหัวคิดแต่เรื่องการปรับ ครม. “เต็มหัวเลย” และนอกจากนายกรัฐมนตรีจะไม่ได้พูดถึงเรื่องปรับ ครม.แล้ว ยังได้สั่งงานข้ามปี

สำหรับการนัดคุยกันนอกรอบนั้นไม่มีอะไร เพราะนายกรัฐมนตรีก็สั่งงานเป็นประจำอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรด่วนนายกรัฐมนตรีก็โทรศัพท์มา ถ้าไม่ด่วนก็ให้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือบางทีนายกรัฐมนตรีก็ส่งไลน์มา

นายอนุทิน ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยก็นิ่งมาตลอด ยังไม่มีการเสนอปรับเก้าอี้ใด ๆ ตั้งแต่สมัยรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี พรรคไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้ เพราะเป็นพรรคเล็ก

ส่วนบรรยากาศภายในพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ผู้บังคับบัญชาตามสายงานของตน คือ นายกรัฐมนตรี ตราบใดที่นายกรัฐมนตรีกับตนไม่มีปัญหาอะไรในการทำงาน ตนก็ไม่กังวล ส่วนกระทรวงอื่นจะขอการสนับสนุน หรือความร่วมมือมาที่ตน ก็ตอบสนองได้หมด ถ้าเป็นเรื่องถูกกฎหมาย

“อย่างที่เคยบอกว่า สั่งวันนี้ เสร็จตั้งแต่เมื่อวาน ผมตอบสนองหมด ถ้าเป็นเรื่องถูกกฏหมาย” นายอนุทิน ระบุ

นายอนุทิน กล่าวว่า ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีเรื่องการทำงาน ซึ่งได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ดูแลปัญหาเรื่องยาเสพติดให้เข้มงวดมากขึ้น โดยตนได้เรียนนายกรัฐมนตรีว่า จากนี้ไป กระทรวงมหาดไทยจะมีมาตรการปราบปรามยาเสพติดอย่างเต็มที่ และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดให้ความสำคัญเรื่องยาเสพติดเป็นเรื่องแรก และทำให้เป็นหมู่บ้านสีขาว

มั่นใจยังนั่ง มท.1 เชื่อปมฮั้ว สว.ไม่ทำการเมืองสะดุด

ส่วนการที่ลูกพรรคเพื่อไทย ออกมาเขย่าเก้าอี้ รมว.มหาดไทย นั้น นายอนุทิน มองว่า เป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง ไม่ว่าจะสมัยรัฐบาลไหน หรือสภาชุดไหนก็เป็นแบบนี้

“เป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง สมัยไหน สภาชุดไหน แสบ ๆ คัน ๆ แต่เวลานี้สามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า กระทรวงมหาดไทย เป็นของพรรคภูมิใจไทย”

ส่วนคดีฮั้วเลือก สว.นั้น ได้เรียนนายกรัฐมนตรีว่า เรื่องนี้มีความพยายามจากผู้ไม่หวังดีที่ต้องการให้มีแผล แต่ยืนยันกับนายกรัฐมนตรีไปแล้วว่าไม่เป็นไร คนที่ไม่ได้ทำผิดกฏหมาย ก็ต้องแก้ไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งเมื่อเล่าให้นายกรัฐมนตรีฟัง นายกรัฐมนตรีก็ส่ายหัว

“เมื่อมีหมายเรียกออกมาเพื่อให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา ยังไม่ใช่เป็นผู้ต้องหา ใครจะกล่าวหาอย่างไรก็ได้ อย่างผม โดนข้อกล่าวหาว่ามีเจตนาล้มล้างระบอบประชาธิปไตย แต่ผมเป็น สส.มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ก็ต้องไปแก้ต่างข้อกล่าวหา” นายอนุทิน กล่าว

พร้อมระบุว่า รู้จักกับ สว.ไม่เกิน 5 คน โดยคนที่สนิทที่สุด คือ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา เพราะเป็นเพื่อนร่วมรุ่น วปอ. รวมถึงนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร เพื่อนร่วมรุ่น วปต. รวมถึงนายมงคล สุระสัจจะ ที่บ้านอยู่ จ.บุรีรัมย์ และเคยเป็นอธิบดีกรมการปกครอง สมัยที่บิดาของตนดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ซึ่งตนรู้จักอยู่แค่นี้ แต่ในข้อกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือฮั้วนั้น ก็ต้องไปแก้ต่าง และพูดตามความจริง มั่นใจการเมืองจะไม่สะดุดเพราะเรื่องนี้

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มิ.ย. 68)