
เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินในวันพุธ (18 มิ.ย.) โดยกล่าวว่า นโยบายการเงินอาจจะสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจในระดับหนึ่ง แต่ในระยะใกล้นี้ เขายังไม่เห็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจะอ่อนแอลง
“เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการขยายตัวสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะอ่อนแอลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และนั่นเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง หลายต่อหลายครั้งที่ผู้คนคิดว่าเศรษฐกิจจะอ่อนแอลง ซึ่งต่อให้ในท้ายที่สุดมันจะอ่อนแอ แต่ในขณะนี้เรายังไม่เห็นสัญญาณของสิ่งนั้น” พาวเวลกล่าว
พาวเวลระบุว่า กรรมการเฟดคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจากราคาสินค้าจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อนนี้ เนื่องจากผลกระทบจากภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะส่งผลต่อผู้บริโภคสหรัฐฯ
“สิ่งที่นักวิเคราะห์ภายนอกทุกคนและเฟดเองกำลังพูดถึงก็คือ เราคาดว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นอย่างมากในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และเราต้องนำสิ่งนี้มาพิจารณา” พาวเวลกล่าว และเสริมว่า “เรามองว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดและเป็นการตัดสินใจที่ดีขึ้น หากเรารอเวลาอีกสักสองสามเดือนหรือนานกว่านั้น เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่าการส่งผ่านเงินเฟ้อดังกล่าวนั้นจะเป็นอย่างไร”
พาวเวลระบุว่า ในการประชุมครั้งนี้ กรรมการเฟด 19 คนมีความเห็นที่แตกต่างกัน โดยมี 7 คนที่มองว่าไม่จำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งมุมมองที่ไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกันนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายภาษีศุลกากรของปธน.ทรัมป์จะลดลงจากจุดสูงสุดในเดือนเม.ย. แต่ขณะนี้ก็ยังคงเป็น “ช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนอย่างมาก”
ในการแถลงข่าวครั้งนี้ พาวเวลไม่ได้กล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน และความเสี่ยงที่ความขัดแย้งดังกล่าวจะมีต่อตลาดน้ำมันโลกหรือตลาดอื่น ๆ โดยพาวเวลกล่าวเพียงว่า เฟดกำลังติดตามความขัดแย้งนี้เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ และแม้ว่าราคาพลังงานอาจจะปรับตัวสูงขึ้น แต่โดยทั่วไปแล้วการพุ่งขึ้นของราคาพลังงานมักจะอ่อนตัวลงในภายหลัง และไม่มีผลกระทบที่ยั่งยืนต่อเงินเฟ้อ
“ขณะนี้เราอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะรอดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจก่อนที่จะพิจารณาปรับเปลี่ยนนโยบายของเรา และเฟดพร้อมที่จะ ‘ตอบสนอง’ ต่อข้อมูลที่เข้ามาอย่างทันท่วงที”
ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 4.25-4.50% ส่วนในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) นั้น เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% ในปีนี้
สำหรับการคาดการณ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจนั้น เฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีนี้ลงสู่ระดับ 1.4% จากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 1.7% และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้ สู่ระดับ 3.1% จากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.8%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 มิ.ย. 68)