สหรัฐฯ แฉ DeepSeek ช่วยกองทัพจีนในปฏิบัติการทางทหารและข่าวกรอง

เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ เปิดเผยกับสื่อว่า ดีปซีค (DeepSeek) ซึ่งเป็นสตาร์ตอัปปัญญาประดิษฐ์ (AI) สัญชาติจีน กำลังให้ความช่วยเหลือด้านปฏิบัติการทางทหารและข่าวกรองแก่จีน นอกจากนี้ ดีปซีคยังพยายามใช้บริษัทบังหน้า (shell company) หลายแห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเข้าถึงเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงที่ไม่สามารถส่งไปยังจีนภายใต้กฎข้อบังคับของสหรัฐฯ

เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยกับสื่อว่า สหรัฐฯ มีข้อมูลบ่งชี้ว่าดีปซีคให้การสนับสนุนและมีแนวโน้มที่จะยังคงให้การสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารและข่าวกรองของจีนต่อไป พร้อมกับเสริมว่า ความพยายามนี้เป็นสิ่งที่นอกเหนือไปจากการเข้าถึงโมเดล AI แบบโอเพนซอร์สของดีปซีค

ข้อสรุปดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าสหรัฐฯ มีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าความสามารถที่อยู่เบื้องหลังการเติบโตอย่างรวดเร็วของดีปซีคซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัท AI ชั้นนำของจีนนั้น อาจถูกกล่าวเกินจริง และต้องพึ่งพาเทคโนโลยีของสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก

การที่สหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยข้อมูลล่าสุดนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสงครามการค้าจีนและสหรัฐฯ ที่ยังคงดำเนินอยู่ในขณะนี้ ต่างจากในช่วงที่ผ่านมาที่ยังไม่เคยมีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประเมินกิจกรรมของดีปซีคและความเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน

ส่วนข้อกล่าวหาอื่น ๆ นั้น เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่า ดีปซีคกำลังแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้งานและข้อมูลด้านสถิติให้กับหน่วยงานกำกับดูแลของจีน โดยรายงานระบุว่า ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ 3 รายของสหรัฐฯ ได้แก่ อะเมซอน (Amazon) ไมโครซอฟท์ (Microsoft) และกูเกิล (Google) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของอัลฟาเบท (Alphabet) ให้บริการ AI ของดีปซีคแก่ลูกค้า

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดีปซีคกำลังพยายามใช้บริษัทหลายแห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บังหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะหลบเลี่ยงการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ เพื่อเข้าถึงชิปขั้นสูงที่ผลิตในสหรัฐฯ โดยดีปซีคสามารถเข้าถึงชิป H100 ระดับไฮเอนด์ของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ในปริมาณมาก ซึ่งชิปเหล่านี้อยู่ภายใต้ข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ปี 2565 เนื่องจากสหรัฐฯ มีความกังวลว่าจีนอาจใช้ชิปเหล่านี้พัฒนาขีดความสามารถทางทหาร หรือสร้างก้าวนำหน้าในการแข่งขันด้าน AI

ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ดีปซีค ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองหางโจว ได้สร้างความตกตะลึงให้กับวงการเทคโนโลยีทั่วโลก เมื่อออกมาประกาศว่าโมเดลการประมวลผล AI ของบริษัทอยู่ในระดับเดียวกันหรือดีกว่าโมเดล AI ชั้นนำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ในราคาที่ถูกกว่ามาก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 มิ.ย. 68)