
นายร่มธรรม เสถียรธรรมะ กรรมการผู้จัดการ บมจ.คาราบาวกรุ๊ป [CBG] กล่าวว่า สถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชายังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายเครื่องดื่มของ CBG มากนัก เพราะชาวกัมพูชายังชื่นชอบและบริโภคเครื่องดื่มชูกำลังอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะมีข้อจำกัดในด้านการขนส่งอยู่บ้าง โดยเฉพาะจากการปิดด่าน ทำให้บริษัทต้องปรับเปลี่ยนมาใช้การขนส่งสินค้าเป็นทางเรือแทน
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีแผนรับมือให้สอดคล้องกับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา โดยการส่งออกสินค้าเครื่องดื่มชูกำลังของ CBG ไปจำหน่ายในกัมพูชาคิดเป็นสัดส่วน 20% ของยอดส่งออกรวม และยังคงแผนที่จะสร้างโรงงานในกัมพูชา โดยจะเร่งเปิดการผลิตให้เร็วขึ้นจากเดิม 1 ม.ค.69 เป็นภายในเดือน ธ.ค.68
ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงเดินหน้าในการขยายตลาดส่งออกในโซนอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะมีการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายเพิ่มอีก 2 ประเทศ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ ในต่างประเทศได้เพิ่มขึ้น
ด้านตลาดในประเทศ สำหรับเครื่องดื่มชูกำลังยังเติบโตขึ้นต่อเนื่อง เห็นได้จากช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 2/68 ยอดขาย “คาราบาวแดง” เพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ย 90 ล้านขวด/เดือน จากไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 80 ล้านขวด/เดือน ประกอบกับ ต้นทุนน้ำตาลและบรรจุภัณฑ์ลดลงค่อนข้างมาก ช่วยหนุนกำไรให้ดีขึ้น
เช่นเดียวกับงานที่ CBG เป็นผู้รับจ้างผลิตบรรจุภัณฑ์และจัดจำหน่ายสินค้า “ตะวันแดง สุราข้าวหอม” ยอดขายเติบโตดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ปรับเปลี่ยนตามภาวะเศรษฐกิจ ทำให้เลือกซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ราคาจับต้องได้ แทนเครื่องดื่มระดับลักชูรี่ อีกทั้งยังได้ปัจจัยหนุนจากต้นทุนบรรจุภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกับเครื่องดื่มชูกำลัง
ปัจจัยดังกล่าวทำให้แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/68 คาดว่าจะเติบโตได้ดีและในช่วงครึ่งปีหลังยังจะเห็นการเติบโตขึ้นของผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทก็ยังต้องมีการติดตามภาวะเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพราะยังมีความไม่แน่นอนและมีความผันผวนอยู่ค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม CBG ยังคงเป้ายอดขายปีนี้เติบโต 30% หรือแตะ 2.7 หมื่นล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 มิ.ย. 68)