
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ย้ำผู้ลงทุนสามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีปี 2568 ผ่านการลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) ทั้งในส่วนที่เป็นเงินลงทุนใหม่และเงินลงทุนที่สับเปลี่ยนจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ได้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้เท่านั้น
ตามที่ภาครัฐมีมาตรการการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อสนับสนุนการลงทุนในหุ้นกลุ่มความยั่งยืน (ESG) และเพิ่มเสถียรภาพตลาดทุนไทย โดยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับเงินลงทุนใหม่ใน Thai ESGX และการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ไป Thai ESGX ในช่วงพฤษภาคม – มิถุนายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จึงขอย้ำผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนใน Thai ESGX หรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจาก LTF ไป Thai ESGX เพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีโดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2568 นี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของมาตรการตามที่ภาครัฐกำหนด
สำหรับการลงทุนใน Thai ESGX โดยวิธีการสับเปลี่ยนจาก LTF ผู้ลงทุนจะต้องสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ที่ตนเองถืออยู่ทั้งหมด ทุกกองทุนในทุกบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ตามเงื่อนไขที่ภาครัฐกำหนด เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้วงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุด 500,000 บาท รวม 5 ปี โดยผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบข้อมูลการถือครองหน่วยลงทุน LTF ทั้งหมดของตนเองได้ทางหน้าเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (www.set.or.th/ltf)
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลกองทุน Thai ESGX เงื่อนไขการลงทุน สิทธิประโยชน์ทางภาษี และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 มิ.ย. 68)