
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันศุกร์ (27 มิ.ย.) แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบหนึ่งเดือน หลังจากข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนช่วยหนุนความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และลดความน่าดึงดูดของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 60.40 ดอลลาร์ หรือ 1.80% ปิดที่ 3,287.60 ดอลลาร์/ออนซ์
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า สถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เริ่มคลี่คลายได้เปิดโอกาสให้นักลงทุนเริ่มขายทำกำไร
ข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเมื่อวันพฤหัสบดีเกี่ยวกับแนวทางเร่งรัดการส่งออกแร่หายากไปยังสหรัฐฯ ถือเป็นสัญญาณเชิงบวก ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น
ในตะวันออกกลาง ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลยังคงมีผล แม้มีเหตุปะทะเล็กน้อยในช่วงแรก
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจ การใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ ลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนพ.ค. หลังจากแรงกระตุ้นจากการซื้อสินค้าล่วงหน้า เช่น รถยนต์ ก่อนที่ภาษีจะมีผล ได้จางหายไป ขณะที่อัตราเงินเฟ้อรายเดือนยังคงเพิ่มขึ้นในระดับปานกลาง
นักลงทุนคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.75% ในปี 2568 โดยน่าจะเริ่มขึ้นในเดือนก.ย. หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำมากนัก เนื่องจากราคาทองคำกำลังเผชิญกับแรงขายจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์
สภาพแวดล้อมทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ ลดความน่าดึงดูดของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และผลักดันให้นักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ขณะเดียวกัน อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงทำให้ทองคำไม่น่าสนใจ เพราะทองไม่มีผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มิ.ย. 68)