
สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาสหรัฐฯ ยังคงพยายามที่จะผ่านร่างกฎหมายปรับลดภาษีและการใช้จ่ายขนานใหญ่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงเช้าวันนี้ (1 ก.ค.) แม้สมาชิกในพรรคจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างในประเด็นที่ว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะส่งผลให้หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก 3.3 ล้านล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ วุฒิสมาชิกกำลังลงคะแนนเสียงในการประชุมที่ใช้เวลายาวนาน หรือที่เรียกว่า “vote-a-rama” โดยสมาชิกของทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครตในวุฒิสภาต่างก็เสนอให้มีการแก้ไขร่างกฎหมายหลายจุดในฉบับนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการอันซับซ้อนที่พรรครีพับลิกันใช้เพื่อเลี่ยงกฎของวุฒิสภาที่โดยปกติแล้วจะต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกวุฒิสภา 60 คนจากทั้งหมด 100 คนเพื่อผ่านกฎหมาย
สำนักงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐฯ (CBO) ได้ออกรายงานเตือนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (29 มิ.ย.) ร่างกฎหมายฉบับที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของวุฒิสภานั้น จะส่งผลให้หนี้สาธารณะของรัฐบาลเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากกว่าร่างกฎหมายที่ผ่านการรับรองจากสภาผู้แทนราษฎรเมื่อเดือนที่แล้วถึง 8 แสนล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี สมาชิกพรรครีพับลิกันจำนวนมากไม่เห็นด้วยกับข้อกล่าวอ้างดังกล่าวของ CBO โดยโต้แย้งว่าการขยายนโยบายที่มีอยู่จะไม่ก่อหนี้เพิ่ม ขณะที่ปธน.ทรัมป์ต้องการให้ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสก่อนวันหยุดในวันที่ 4 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐฯ
การลงคะแนนร่างกฎหมายฉบับนี้เริ่มขึ้นในวันจันทร์ (30 มิ.ย.) และดำเนินมานานกว่า 16 ชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการลงคะแนนจะดำเนินไปอีกนานเท่าใด ขณะที่สมาชิกวุฒิสภากล่าวว่า ส่วนหนึ่งที่กระบวนการดังกล่าวมีความล่าช้านั้น เนื่องจากความจำเป็นในการพิจารณาว่าการแก้ไขร่างกฎหมายนั้น เป็นไปตามกฎงบประมาณพิเศษหรือไม่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ค. 68)