“ชูศักดิ์” ฟันธง “แพทองธาร” คุณสมบัติครบเข้าถวายสัตย์ฯนั่งเก้าอี้ รมว.วัฒนธรรมได้

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะทีมกฎหมายรัฐบาล กล่าวว่า ทีมกฎหมายอยู่ระหว่างช่วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ทำคำชี้แจงข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน หลังศาลฯ รับคำร้องวินิจฉัยปมคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยทีมกฎหมายจะพิจารณารายละเอียดว่าจะต้องมีข้อมูลหรือเอกสารใดเพิ่มเติมอีกหรือไม่

“จริง ๆ เรามีเอกสารครบถ้วนแล้ว เพราะเตรียมเอาไว้แล้วเรียบร้อย เพียงแต่ครั้งนี้ อาจจะนำมาเรียบเรียง และดูว่ามีอะไรเพิ่มเติมหรือไม่” นายชูศักดิ์ ระบุ

ส่วนการตีความคุณสมบัติการดำรงตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม ของน.ส.แพทองธาร ที่อาจมีผลต่อการเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนนั้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า จากความเห็นของนักวิชาการ หรืออดีตตุลาการบางคน มองว่าเป็นคุณสมบัติเดียวกันกับคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี จึงมองว่าจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เหมือนกัน

แต่ตนมองว่า หากไปตีความเช่นนั้นแสดงว่าคุณวินิจฉัยว่านายกรัฐมนตรีมีความผิดไปแล้ว ซึ่งความจริงศาลฯ ยังมีไม่มีคำวินิจฉัยว่านายกรัฐมนตรีขาดคุณสมบัติหรือไม่ ดังนั้น ก็ต้องถือว่าน.ส.แพทองธาร มีคุณสมบัติเต็มที่ในแง่ของการทำหน้าที่รัฐมนตรี ไม่เช่นนั้น ก็เท่ากับไปตีความว่ามีความผิดไปแล้ว ซึ่งไม่ใช่แบบนั้น

ส่วนที่กฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 ตีความว่าเป็นรัฐมนตรี ซึ่งหมายถึงนายกรัฐมนตรีหยุดปฎิบัติหน้าที่ ดังนั้นการเป็น รมว.วัฒนธรรม จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ด้วยหรือไม่นั้น นายชูศักดิ์ ถามกลับว่า ศาลฯ ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นี่เป็นประเด็นที่หนึ่ง

พร้อมยกตัวอย่างว่า ที่ผ่านมาก็มีการสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ในบางตำแหน่งเป็นการชั่วคราว เช่น กรณีของคดีฮั้วเลือก สว. ที่ศาลสั่งให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะในส่วนของการกำกับดูแลงานกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ซึ่งตนก็ทำหน้าที่รักษาการอยู่ ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี ก็ยังทำหน้าที่เป็น รมว.ยุติธรรม และครั้งนี้ศาลฯ ไม่ได้วินิจฉัยว่าให้รวมตำแหน่งอื่นด้วย ซึ่งจะวินิจฉัยเช่นนั้นก็ไม่ได้ เพราะเกินจากคำขอในคำร้อง

นายชูศักดิ์ ยังเชื่อว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี จะสามารถทำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนได้ ไม่มีข้อห้ามหรือมีความผิดใด และไม่กังวลหากจะมีใครไปยื่นร้องเรียนว่านำถวายสัตย์ฯ แบบไม่ถูกขั้นตอน

“ขณะนี้ ได้มีการโปรดเกล้าฯ ลงมาแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนการเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งคิดว่าไม่มีอะไรห้าม” นายชูศักดิ์ กล่าว

ส่วนจะต้องส่งเรื่องไปสอบถามคณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนเข้าถวายถวายสัตย์หรือไม่ นายชูศักดิ์ หัวเราะก่อนถามกลับว่า “จะทันไหม”

ส่วนที่มีการมองว่าฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ เพราะทำให้แพ้คดีมาโดยตลอดนั้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ทีมกฎหมายทำงานกันเต็มที่ แต่สิ่งที่ตนย้ำมาตลอดคือ กฎหมายที่มีอยู่ในขณะนี้ต้องไปทบทวนว่ามีความเป็นธรรมมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะการใช้ดุลยพินิจของศาลเพื่อตัดสินในเรื่องที่เกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริต และเรื่องจริยธรรม

“เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต เรื่องจริยธรรม เคยบอกว่าไม่มีเกณฑ์มาตรฐานที่แน่นอน ว่าอะไรเป็นอะไร กลายเป็นดุลยพินิจของศาลฯ ซึ่งเคยเสนอไปว่า ต้องแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญตรงนี้ ดังนั้นถ้าฝ่ายกฎหมายไม่มีประสิทธิภาพ ผมก็ไม่ปฏิเสธ แต่อยากให้ดูถึงรากเหง้าของปัญหาด้วย” นายชูศักดิ์ ระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ค. 68)