
SET ปิดเช้าวันนี้ 1,111.46 จุด ลดลง 8.48 จุด (-0.76%) มูลค่าซื้อขายราว 16,052 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นปรับลงรับแรงกดดันจากกลุ่มหุ้นใหญ่ ทั้งกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ส่งออก และนิคมฯ จากประเด็นการเจรจาไทย-สหรัฐไร้ข้อสรุป ขณะที่กลุ่มพลังงานลงตามราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม กลุ่ม Yield play โดยเฉพาะสื่อสารดีดขึ้นประคองตลาด หลังเงินเฟ้อติดลบต่อเนื่อง 3 เดือนเพิ่มโอกาส กนง.หั่นดอกเบี้ย แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดแกว่งทรงๆทิศทางพักตัว ให้กรอบแนวรับ 1,100 จุด และแนวต้าน 1,115 จุด
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,111.46 จุด ลดลง 8.48 จุด (-0.76%) มูลค่าซื้อขายราว 16,052 ล้านบาท
- การซื้อขายช่วงเช้าดัชนีแกว่งในแดนลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,117.29 จุด และต่ำสุด 1,107.46 จุด
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้รับแรงขายหุ้นใหญ๋กดดัน อาทิ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ส่งออก นิคมอุตสาหกรรม จากประเด็นการเจรจาภาษีการค้าระหว่างไทยและสหรัฐยังไม่ได้ข้อสรุป และกลุ่มพลังงานปรับลงตามราคาน้ำมันหลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) ปรับเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่หุ้นตัวอื่น ๆ ยังรอความชัดเจนจากมาตรภารภาษีการค้าสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม แม้จะผิดหวังการเจรจาระหว่างไทย-สหรัฐ แต่ตลาดตอบรับไปพอสมควรแล้ว อีกทั้งเช้านี้การเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อเดือน มิ.ย.ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เพิ่มโอกาสให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดอัตราดอกเบี้ยได้ 1-2 ครั้งในปีนี้ เป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่ม Yield Play ทั้งสื่อสาร ไฟแนนซ์ และกลุ่ม Domestic ช่วยประคองตลาดได้ดีระดับหนึ่ง แต่ปริมาณการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากตลาดหุ้นไทยมีวันหยุดในช่วงกลางสัปดาห์ นักลงทุนอาจลดสถานะลงมาก่อนทำให้ดัชนีแกว่งซึมตัว
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดแกว่งทรง ๆ ทิศทางพักตัวลงมา โดยให้กรอบแนวรับ 1,100 จุด และแนวต้าน 1,115 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
- TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,102.97 ล้านบาท ปิดที่ 11.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
- ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,016.55 ล้านบาท ปิดที่ 284.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
- KTC มูลค่าการซื้อขาย 985.96 ล้านบาท ปิดที่ 24.80 บาท ลดลง 0.10 บาท
- DELTA มูลค่าการซื้อขาย 781.85 ล้านบาท ปิดที่ 106.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
- WHA มูลค่าการซื้อขาย 735.85 ล้านบาท ปิดที่ 3.08 บาท ลดลง 0.32 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.ค. 68)