
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (8 ก.ค.) โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ มุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า ยังส่งผลให้ความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยลดน้อยลงด้วย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 25.90 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ 3,316.90 ดอลลาร์/ออนซ์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.1%
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ ส่วนการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
รายงานระบุว่า ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของเอเชียอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กำลังพยายามเจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ เพื่อขอให้มีการปรับลดอัตราภาษีก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 1 ส.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัท Zaner Metals กล่าวว่านักลงทุนมีมุมมองบวกว่าสหรัฐฯ อาจจะบรรลุข้อตกลงกับประเทศคู่ค้า ซึ่งส่งผลให้ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ปรับตัวลดลง
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมวันที่ 17-18 มิ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะมีการเผยแพร่ในวันนี้ (9 ก.ค.) เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของเฟด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.ค. 68)