UN เผยการค้าโลกครึ่งปีแรกโตเพียง 3 แสนล้านดอลล์ เตือนทิศทางไม่แน่นอนสูง

การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าโลกในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ปรับตัวขึ้น 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่ช้าลง

UNCTAD เผยแพร่รายงานการค้าโลก (Global Trade) ฉบับล่าสุดในวันอังคาร (8 ก.ค.) โดยเตือนว่า แนวโน้มการค้าโลกยังคงไม่แน่นอนเนื่องจากนโยบายการค้าที่ยังไม่มีเสถียรภาพ ตลอดจนความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และสัญญาณการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่อ่อนตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี

รายงานของ UNCTAD ระบุว่า มูลค่าการค้าโลกขยายตัวประมาณ 1.5% ในไตรมาส 1/2568 และคาดว่าจะเติบโต 2% ในไตรมาส 2 โดยราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นปัจจัยหนุนมูลค่าการค้าโลกโดยรวม ขณะที่ปริมาณการค้าโลกเพิ่มขึ้นเพียง 1%

ส่วนราคาซื้อขายสินค้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในไตรมาส 1/2568 และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 2/2568

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ข้อมูลของ UNCTAD แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มด้านการค้าที่หลากหลายในหมู่ประเทศที่สำคัญของโลกในไตรมาสแรกของปี 2568 โดยการค้าในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วเติบโตแซงหน้ากลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ซึ่ง UNCTAD ระบุว่ามีสาเหตุมาจากการที่สหรัฐฯ นำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นมากถึง 14% และการส่งออกสินค้าจากสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น 6%

ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าเป็นวงกว้างในช่วง 4 ไตรมาสที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากการค้าที่ไม่สมดุล

รายงานดังกล่าวของ UNCTAD ยังเน้นย้ำถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการแตกกลุ่มด้านการค้าที่มีสาเหตุมาจากมาตรการภาษีศุลกากรล่าสุดของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงภาษีศุลกากรพื้นฐานในอัตรา 10% และภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากการนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม โดย UNCTAC เตือนว่าการใช้มาตรการการค้าเพียงฝ่ายเดียวอาจทำให้ความตึงเครียดด้านการค้าทวีความรุนแรงมากขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.ค. 68)