โกลด์แมนฯ คาดตลาดหุ้นเอเชียให้ผลตอบแทน 9% ในช่วง 12 เดือน

บริษัทโกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นฮ่องกงเป็นระดับเท่ากับตลาด (market-weight) โดยมองว่า ฮ่องกงจะเป็นหนึ่งในตลาดที่ได้รับประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ อันเป็นผลมาจากวัฏจักรการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) พร้อมระบุว่า ฟิลิปปินส์และไต้หวันเป็นตลาดในภูมิภาคที่ตอบสนองเชิงบวกได้มากที่สุดต่อปัจจัยเหล่านี้

นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์เปิดเผยในบันทึกในวันนี้ (11 ก.ค.) ว่า ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายระยะ 12 เดือนสำหรับดัชนีเอ็มเอสซีไอ เอเชียแปซิฟิกไม่รวมญี่ปุ่น (MSCI Asia Pacific ex-Japan Index) ขึ้น 3% แตะระดับ 700 จุด ซึ่งหมายถึงผลตอบแทนในรูปเงินดอลลาร์ราว 9% ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว

ขณะเดียวกัน โกลด์แมน แซคส์ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ในระดับมากกว่าตลาด (overweight) แต่ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นมาเลเซียลงสู่ระดับต่ำกว่าตลาด (underweight) เนื่องจากบริษัทให้ความสำคัญกับตลาดในเอเชียเหนือมากกว่า

ด้านปัจจัยที่กระทบต่อตลาดนั้น โกลด์แมน แซคส์ประเมินว่า การใช้มาตรการภาษีศุลกากรและนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นเอเชียในไตรมาส 3 โดยแม้อัตราภาษีที่ถูกเรียกเก็บในอนาคตอาจสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ แต่ผลกระทบต่อการเติบโตในเชิงพื้นฐานอาจไม่รุนแรงอย่างที่นักลงทุนวิตกกันในช่วงต้นไตรมาส 2

ด้านแนวโน้มผลตอบแทนนั้น โกลด์แมน แซคส์มองว่า การเติบโตของผลกำไรจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก โดยระบุว่า หุ้นในภูมิภาคมีอัตราส่วนราคาต่อกำไรล่วงหน้า (forward P/E) อยู่ที่ระดับ 14 เท่า ซึ่งสอดคล้องกับมูลค่ายุติธรรมตามแบบจำลองทางเศรษฐกิจมหภาค

ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์เคยปรับลดน้ำหนักหุ้นฮ่องกงลงสู่ระดับต่ำกว่าตลาดเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่ผ่านมา เนื่องจากความอ่อนแอของภาคอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีก รวมถึงการที่นโยบายผ่อนคลายของจีนยังไม่ส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่นั้น ดัชนีฮั่งเส็งและดัชนี MSCI Hong Kong ได้ปรับตัวขึ้นแล้วไม่น้อยกว่า 18%

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ค. 68)