คลัง แย้มพร้อมยื่นข้อเสนอสหรัฐเพิ่มเล็งสรุปเจรจากรอบกว้างก่อน 1 ส.ค.รวบรวมผลกระทบรายเซ็กเตอร์จันทร์นี้

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวภายหลังการประชุมทีมไทยแลนด์ร่วมกับอีกหลายหน่วยงานที่บ้านพิษณุโลกเช้านี้ เพื่อประเมินและกำหนดแนวทางการเจรจามาตรการภาษีสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าการเจรจาจะได้ข้อสรุปกว้าง ๆ ก่อนถึงกำหนดเส้นตายใหม่วันที่ 1 ส.ค.นี้ จากนั้นน่าจะยังต้องทำงานร่วมกันต่อไปเพื่อลงรายละเอียด

หลังจากได้ส่งข้อเสนอใหม่ไปแล้วเมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ถึงวันนี้ก็ต้องลงไปในรายสินค้า ซึ่งฝ่ายไทยอาจจะปรับแก้ข้อเสนอในรายละเอียดและหากทางฝั่งสหรัฐแจ้งมาก็พร้อมเสนอเพิ่มเติม ควบคู่ไปกับการเตรียมมาตรการช่วยเหลือภาคเอกชนที่จะได้รับผลกระทบ ซึ่งจะมีการรวบรวมเป็นราย sector ภายในวันที่ 14 ก.ค.หลังจากหารือร่วมกับภาคเอกชนไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่ยืนยันว่าสิ่งที่เสนอกับสหรัฐต้องไม่กระทบต่อภาคเกษตกรรมรายย่อยและภาคอุตสาหกรรมรายย่อย

“จะสรุปข้อมูลที่ได้ประชุมกัน รวมถึงที่ได้หารือกับภาคเอกชน ในวันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคมว่ามีข้อเสนอใดที่จะต้องปรับปรุงเพื่อยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมอีกหรือไม่ จากเดิมที่เคยเสนอสหรัฐฯ ไปแล้วเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม และจะหาโอกาสในการพูดคุยทางออนไลน์กับผู้ปฏิบัติว่ายังต้องการอะไรอีก เพื่อทำความเข้าใจกันก่อน และปรับปรุงข้อเสนออีกเล็กน้อย หากจำเป็นก็พร้อมจะเดินทางไปพูดคุย” นายพิชัย กล่าว

ส่วนจะได้อัตราภาษีเท่าใดนั้น นายพิชัย กล่าวว่า ไม่ได้มีเป้าหมาย แต่คาดหวังว่าจะไม่เสียเปรียบคู่แข่ง

สำหรับการเจรจาต่อรองนั้นจะกำหนดเงื่อนไขไว้ 3 ประเด็น คือ

1.การนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ จะต้องไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ผลิตสินค้าในประเทศ ทั้งเกษตรกร และอุตสาหกรรมรายย่อย

2.การแก้ปัญหาเรื่องการสวมสิทธิ์ โดย ดูแลการนำเข้าสินค้าให้ทั่วถึง ไม่ให้เกิดเรื่องที่ไม่เหมาะสมเหมือนที่ผ่าน และถือเป็นโอกาสในการทบทวนตัวเองให้สินค้าได้รับการกำกับดูแลให้มีประสิทธิภาพ ทั้งขาเข้าและขาออก

3.มาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ โดยเฉพาะเกษตรกร และผู้ประกอบการรายย่อย

ส่วนจะได้อัตราภาษีเท่าใดนั้น นายพิชัย กล่าวว่า ไม่ได้มีเป้าหมาย แต่คาดหวังว่าจะไม่เสียเปรียบคู่แข่ง

นายพิชัย ยืนยันจะทำให้ดีที่สุด ซึ่งสหรัฐฯ ต้องการเจรจาภาษีสินค้าทุกตัว แต่ต้องระมัดวังในเรื่องสินค้าเกษตร เพราะแม้จะมีมูลค่าไม่มากแต่เกี่ยวพันกับคนจำนวนมาก ซึ่งจะชี้แจงให้ชัดเจน โดยไม่ทำให้เสียเปรียบประเทศอื่น และเชื่อว่าไทยจะไม่ได้รับผลกระทบสูงกว่าประทศอื่น

ส่วนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาร่วมประชุมด้วยนั้น นายพิชัย กล่าวว่า ตนเป็นผู้เชิญ ในฐานะที่นายทักษิณรู้เรื่องเหล่านี้ดี น่าจะให้ข้อคิดเห็นได้ดี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ค. 68)