
นายกรัฐมนตรี มาร์ค คาร์นีย์ ผู้นำแคนาดา เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (10 ก.ค.) ว่า แคนาดาเตรียมเดินหน้าเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ก่อนเดดไลน์ใหม่วันที่ 1 ส.ค.
คาร์นีย์ระบุผ่านโซเชียลมีเดียของเขาว่า รัฐบาลแคนาดาได้ปกป้องคนงานและธุรกิจอย่างแน่วแน่ตลอดที่ได้มีการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ในปัจจุบัน พร้อมยืนยันว่า “เราจะเดินหน้าเจรจาต่อไปจนถึงเส้นตายวันที่ 1 ส.ค.”
คาร์นีย์ระบุว่า แคนาดามีความคืบหน้าอย่างมากในการหยุดยั้งภัยคุกคามจากเฟนทานิลในอเมริกาเหนือ พร้อมยืนยันถึงความมุ่งมั่นของแคนาดาที่จะเดินหน้าทำงานกับสหรัฐฯ ต่อไป เพื่อช่วยชีวิตและปกป้องชุมชนของทั้งสองประเทศ
คาร์นีย์กล่าวว่า “เรากำลังทำให้แคนาดาแข็งแกร่ง โดยรัฐบาลกลาง มลรัฐ และเขตปกครองต่าง ๆ กำลังมีความคืบหน้าอย่างมากในการสร้างเศรษฐกิจแคนาดาที่เป็นหนึ่งเดียวกัน” และเสริมว่า แคนาดากำลังส่งเสริมความเป็นพันธมิตรทางการค้ากับทั่วโลก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีว่า จะจัดเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดาในอัตรา 35% โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. เป็นต้นไป โดยทรัมป์ชี้ว่า ภาษีในอัตราใหม่นี้ส่วนหนึ่งมาจากการไหลของเฟนทานิลจากแคนาดา ตลอดจนแนวปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม และเขาจะพิจารณาปรับภาษีศุลกากรหากแคนาดาให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการหยุดยั้งการไหลของสารเฟนทานิล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ค. 68)