
สถานทูตสหรัฐอเมริกาเตือนผู้ที่ได้รับอนุมัติวีซ่าสหรัฐฯ ให้ปฏิบัติตามตามกฎหมายและกฎระเบียบการเข้าเมืองของสหรัฐฯ เนื่องจากสถานทูตยังตรวจสอบผู้ถือวีซ่าต่อเนื่อง แม้ออกวีซ่าให้แล้ว โดยการละเมิดกฎหมายอาจนำไปสู่การเพิกถอนวีซ่าและการส่งกลับประเทศ
สถานทูตสหรัฐฯ กรุงเทพฯ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กในวันนี้ (15 ก.ค.) ระบุว่า “การตรวจสอบวีซ่าของสหรัฐฯ ยังคงดำเนินต่อไปแม้หลังจากที่ออกวีซ่าแล้ว เราตรวจสอบผู้ถือวีซ่าอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบการเข้าเมืองของสหรัฐฯ หากไม่ปฏิบัติตาม เราจะเพิกถอนวีซ่าและดำเนินการส่งกลับตามขั้นตอน” พร้อมติดแฮชแท็ก #USConsularThailandTips
ทั้งนี้ เมื่อสองสัปดาห์ก่อน สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่ ได้เผยแพร่ข้อความเดียวกันนี้ผ่านทางเฟซบุ๊กของสถานกงสุลฯ เช่นเดียวกับสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศอินเดีย ที่ได้โพสต์เตือนผ่านทางแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) เมื่อวันเสาร์ (12 ก.ค.)
คำเตือนดังกล่าวสะท้อนถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการปราบปรามการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย และนับเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับการอนุมัติวีซ่า หลังจากเมื่อเดือนมิ.ย. สถานทูตสหรัฐฯ ได้ดำเนินการตามนโยบายของปธน.ทรัมป์ โดยประกาศว่า ผู้สมัครวีซ่าชั่วคราวประเภท F, M หรือ J ต้องปรับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของบัญชีโซเชียลมีเดียทั้งหมดเป็นแบบ “สาธารณะ” เพื่อการตรวจสอบข้อมูลที่จำเป็นในการยืนยันตัวตนและคุณสมบัติในการเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาภายใต้กฎหมายของสหรัฐฯ โดยข้อกำหนดนี้มีผลบังคับใช้ทันที
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ค. 68)