ดาวโจนส์ปิดบวก 229.71 จุด รับผลประกอบการ-ข้อมูลศก.แกร่ง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกกว่า 200 จุดในวันพฤหัสบดี (17 ก.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจและรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าผู้บริโภคของสหรัฐฯ ยังคงเต็มใจที่จะใช้จ่าย

  • ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,484.49 จุด เพิ่มขึ้น 229.71 จุด หรือ +0.52%, และ
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,297.36 จุด เพิ่มขึ้น 33.66 จุด หรือ +0.54% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,885.65 จุด เพิ่มขึ้น 155.16 จุด หรือ +0.75%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกติดต่อกันวันที่ 2 ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นเวลา 6 ใน 7 วันทำการ และดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นเวลา 6 วันนับตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย.

นักวิเคราะห์จากบริษัท Ameriprise Financial กล่าวว่า ความแข็งแกร่งของข้อมูลเศรษฐกิจและรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนแสดงให้เห็นว่าศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงมีความแข็งแกร่งและเป็นปัจจัยหนุนตลาดในสัปดาห์นี้

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากลดลง 0.9% ในเดือนพ.ค. ส่วนเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 3.9% ในเดือนมิ.ย. แข็งแกร่งกว่าในเดือนพ.ค.ที่เพิ่มขึ้น 3.2%

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 7,000 ราย สู่ระดับ 221,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 232,000 ราย ซึ่งบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน

หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น 0.92% และ 0.89% ตามลำดับ ส่วนหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลง 1.18% และ 0.16% ตามลำดับ

หุ้น เป๊ปซี่โค (PepsiCo) พุ่งขึ้น 7.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 2/2568 และยังได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการที่ดีขึ้น โดยได้แรงหนุนจากความต้องการเครื่องดื่มที่ปรับตัวสูงขึ้น

หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ (United Airlines) ดีดตัวขึ้น 3.1% หลังเปิดเผยกำไรที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 2/2568 นอกจากนี้ ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ยังเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์ด้านการเดินทางที่แข็งแกร่งขึ้นด้วย ขณะที่หุ้นสายการบินคู่แข่งอย่างเดลตา (Delta) และอเมริกัน แอร์ไลน์ (American Airlines) ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1.4%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นบริษัทผลิตชิปของสหรัฐฯ หลังจากบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง (TSMC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิป AI ขั้นสูงรายใหญ่ของโลก เปิดเผยกำไรรายไตรมาสสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากความต้องการชิป AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ หุ้น TSMC ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก พุ่งขึ้น 3.4% ขณะที่หุ้นมาร์เวลล์ (Marvell) บวก 1.6% และหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) บวก 1%

หุ้นเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ปรับตัวขึ้น 1.9% และหลังจากที่ตลาดปิดทำการไม่นาน เน็ตฟลิกซ์เปิดเผยผลประกอบการที่สูงกว่าคาด โดยได้แรงหนุนจากกระแสการตอบรับซีรีส์ยอดนิยมอย่าง “Squid Game”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ค. 68)