
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ รอคอยที่จะร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับญี่ปุ่น ในฐานะพันธมิตรทวิภาคีที่ “ไม่เคยแข็งแกร่งเช่นนี้มาก่อน” โดยการเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นหลังจากพรรคร่วมรัฐบาลญี่ปุ่นสูญเสียเสียงข้างมากในการเลือกตั้งวุฒิสภา
“การเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่นถือเป็นเสาหลักของสันติภาพ ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกและทั่วโลก และไม่เคยแข็งแกร่งเช่นนี้มาก่อน” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยกับสำนักข่าวเกียวโดในวันอาทิตย์ (20 ก.ค.)
“เรารอคอยที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรประชาธิปไตยที่มั่นคง โดยวาระที่เราจะร่วมมือกันเป็นวงกว้างนั้น เป็นประเด็นระดับทวิภาคี ระดับภูมิภาค และระดับโลก” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว
การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่พรรคร่วมรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ สูญเสียเสียงข้างมากในวุฒิสภาซึ่งที่มี 248 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ โดยที่ผ่านมานั้นพรรคร่วมรัฐบาลของอิชิบะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาพรรคประชานิยมขนาดเล็กเกี่ยวกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น
ผลการเลือกตั้งครั้งนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้อิชิบะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แม้เขาจะให้คำมั่นว่าจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปก็ตาม
ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลได้สูญเสียเสียงข้างมากในทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมากสำหรับรัฐบาลญี่ปุ่นในยุคหลังสงคราม โดยสถานการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ว่า การสนับสนุนจากฝ่ายค้านจะกลายเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญมากขึ้นสำหรับการผ่านร่างกฎหมายและงบประมาณ
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งกล่าวกับสำนักข่าวเกียวโดโดยไม่เปิดเผยชื่อ ยังระบุว่า ความร่วมมือกับญี่ปุ่นครอบคลุมถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ไตรภาคีที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีใต้ด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ค. 68)