
พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงผลประชุม ศบ.ทก ประจำสัปดาห์ว่า จากเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิดบริเวณชายแดนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทางกองทัพได้ยกระดับมาตรการการปฏิบัติที่เข้มข้นขึ้นกับหน่วยในพื้นที่ โดยได้รับคำสั่งให้เพิ่มความระมัดระวังในการลาดตระเวน ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (ศทช.) กองบัญชาการกองทัพไทย ได้ออกหนังสือประณามการกระทำดังกล่าวแล้ว
พร้อมกันนี้ กองทัพเตรียมเชิญผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร รวมถึงผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ มาฟังคำชี้แจงเพื่อรับทราบข้อเท็จจริงในเร็ว ๆ นี้
*กต. เตรียมส่งหนังสือประท้วงกัมพูชา กรณีวางทุ่นระเบิดสังหาร
นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุด ต่อการที่กัมพูชาวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เป็นการละเมิดอธิปไตยไทย และเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นการกระทำที่ละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาออตตาวา
โดยกระทรวงการต่างประเทศ จะส่งหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังฝั่งกัมพูชา พร้อมจะดำเนินการตามกระบวนการของอนุสัญญาออตตาวา แจ้งการละเมิดอนุสัญญา เพื่อนำไปสู่การรับผิดชอบโดยกัมพูชา และจะเดินหน้าต่อในการชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ให้มิตรประเทศและองค์กรต่าง ๆ รับทราบ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่มีภารกิจสำคัญในการเก็บทุ่นระเบิดในกัมพูชา เช่น ญี่ปุ่น และนอร์เวย์ และจะจัดการบรรยายสรุป ต่อคณะทูตประจำประเทศไทยต่อเรื่องนี้ด้วย
รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ อยู่ระหว่างการหารือการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาการเมืองที่ยั่งยืน ที่องค์การสหประชาชาติ (UN) กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะได้หารือกับผู้แทนระดับสูงของต่างประเทศ โดยจะใช้โอกาสนี้ ในการยืนยันจุดยืนของไทยต่อประชาคมโลก และเป็นการเน้นย้ำว่าไทยยึดการเจรจาแบบสันติวิธี เจรจาผ่านกรอบทวิภาคี
นอกจากนี้ ไทยขอเรียกร้องให้กัมพูชาให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมตามแนวชายแดน ตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศได้พูดคุยกันแล้วภายในกรอบทวีภาคี
พร้อมย้ำว่า ไทยยังมีจุดยืนในการเจรจาทวิภาคีกับกัมพูชาตามกลไกที่มีอยู่ โดยเฉพาะคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC), คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) โดยขอให้กัมพูชาเริ่มเข้าร่วมการประชุม JBC ในเดือนก.ย.นี้
ขณะที่การท่องเที่ยวปราสาทตาเมือนธม หลังเกิดเหตุความวุ่นวายเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ฝ่ายไทยและกัมพูชาได้ร่วมหารือกันเพื่อแก้ไขปัญหาและการบริหารจัดการเพื่อไม่ให้เกิดเหตุกระทบกระทั่งระหว่างนักท่องเที่ยวทั้ง 2 ประเทศ โดยมีมาตรการดังนี้
- หากมีปัญหาจากนักท่องเที่ยวเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไทยหรือกัมพูชา จะให้ชุดเจ้าหน้าที่ประสานงานของชาตินั้นเป็นผู้จัดการ โดยเชิญตัวนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่
- กรณีเกิดปัญหาในพื้นที่ จะใช้ชุดประสานงานปราสาทฝ่ายละ 7 คน จะไม่มีการเรียกชุดกำลังเสริม หรือส่วนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องมาเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าทั้งสองฝ่าย และขอให้ทั้งสองฝ่ายคัดกรองนักท่องเที่ยวของแต่ละฝ่าย ก่อนจะมีการเยี่ยมชมปราสาท ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว
ขณะที่ ฝ่ายไทยได้กำหนดมาตรการเพิ่มเติมในการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว โดยจัดชุดอาสาสมัคร และทหารพรานหญิง มาอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นห่วงนักท่องเที่ยวไทยที่จะเดินทางไปเที่ยวปราสาทตาเมือนธมให้มีความปลอดภัย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ค. 68)