
องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า กองทัพอิสราเอลโจมตีที่พักเจ้าหน้าที่และโกดังหลักของ WHO ในฉนวนกาซาเมื่อวันจันทร์ (21 ก.ค.) ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ WHO ระบุว่า เป็นการบั่นทอนศักยภาพในการดำเนินงานในภูมิภาคอย่างร้ายแรงและยิ่งทำให้ระบบสาธารณสุขในพื้นที่ล่มสลายเร็วขึ้น
WHO ระบุในแถลงการณ์ว่า ที่พักเจ้าหน้าที่ในเมืองเดียร์ อัล-บาลาห์ในฉนวนกาซาถูกโจมตี 3 ครั้งเมื่อวันจันทร์ และโกดังหลักถูกทำลาย พร้อมประณามการโจมตีดังกล่าวอย่างถึงที่สุด
ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO ระบุผ่านเอ็กซ์ (X) ว่า กองทัพอิสราเอลได้เข้ามาในพื้นที่ของ WHO บังคับให้ผู้หญิงและเด็กต้องอพยพด้วยการเดินเท้า ขณะที่เจ้าหน้าที่ชายและสมาชิกในครอบครัวถูกใส่กุญแจมือ ถอดเสื้อผ้า สอบปากคำ ณ ที่เกิดเหตุ และถูกตรวจค้นด้วยการจ่อปืน
กีบรีเยซุสระบุว่า มีเจ้าหน้าที่ 2 คนและสมาชิกในครอบครัว 2 คนที่ยังคงถูกควบคุมตัวเอาไว้ ก่อนที่ต่อมาจะมี 3 คนที่ได้รับการปล่อยตัว ขณะที่อีก 1 คนยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยตัวเจ้าหน้าที่ที่ถูกควบคุมตัวทันที และเรียกร้องให้มีการคุ้มครองอย่างเต็มที่แก่บุคลากรของ WHO ทุกคน
นอกจากนี้ กีบรีเยซุสยังเรียกร้องให้ชาติสมาชิก WHO ช่วยรับประกันว่าจะมีการจัดส่งเวชภัณฑ์ทางการแพทย์เข้าสู่ฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
“การหยุดยิงไม่เพียงแต่เป็นเรื่องจำเป็นเท่านั้น แต่มันยังล่าช้าไปแล้วด้วย” กีบรีเยซุสกล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กองทัพอิสราเอลได้ส่งรถถังเข้ารุกพื้นที่บางส่วนของเมืองเดียร์ อัล-บาลาห์ หลังจากที่มีประกาศเตือนเมื่อวันก่อน ให้ประชาชน รวมถึงผู้พลัดถิ่นที่อาศัยอยู่ในเต็นท์ อพยพออกจากพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปฏิบัติการในทันที โดยคาดการณ์เบื้องต้นจากสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNOCHA) ในช่วงเวลาดังกล่าวมีชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นหลายหมื่นคนอยู่ในเมืองแห่งนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ค. 68)